สิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ กำหนดนโยบายและโครงสร้างการบริหารความปลอดภัยอย่างชัดเจนสอดคล้องตามกฎหมาย โดยนำระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (OHSAS18001) มาใช้เป็นแนวปฏิบัติขั้นพื้นฐาน เพื่อช่วยพัฒนาให้พนักงานมีมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน
1. นโยบายคุณภาพ สิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัยและความปลอดภัย บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะดำเนินงานระบบคุณภาพ สิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงาน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของบุคลากร เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
  • ผลิตน้ำประปาที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของลูกค้า
  • สร้างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าโดยตรงและลูกค้าโดยอ้อม
  • ปรับปรุงและพัฒนาความรู้และความสามารถ ทักษะ และความชำนาญให้กับพนักงานทุกคนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดจิตสำนึกในด้านคุณภาพ สิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภัย
  • ปฏิบัติตามกฏหมายและข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องลักษณะปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยในการทำงานของบริษัทฯ
  • ป้องกันมลพิษที่จะกระทบสิ่งแวดล้อมจากกิจกรรมของบริษัทฯ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด
  • ป้องกันและลดอุบัติเหตุ อันตราย และความเจ็บป่วยจากการปฏิบัติงานของพนักงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากการดำเนินงานของบริษัทฯ
  • เตรียมความพร้อมต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นและดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าเหตุการณ์เหล่านั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อบุคคลและทรัพย์สินทั้งภายในและภายนอกบริษัทฯ
2. เป้าหมายด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
  • การเป็นองค์กรที่ปราศจากการบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงาน (Injury & Illness Free Operation)
3. กลยุทธ์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
  • สร้างมาตรฐานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้แก่พนักงานทุกระดับ โดยผู้บริหารต้องเป็นผู้นำ
  • เพิ่มศักยภาพและความตระหนักเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน
  • สร้างความมีส่วนร่วมของพนักงานและคู่ธุรกิจ เพื่อปรับปรุงและแก้ไขการทำงานให้เกิดความปลอดภัย
วัตถุประสงค์สิ่งแวดล้อม ความถี่ในการสรุปผล ผู้รับผิดชอบ
1. การคัดแยกขยะตรงตามภาชนะที่กำหนดไม่น้อยกว่าร้อยละ 98 1 ครั้งต่อสัปดาห์ MR, SITE
2. ไม่มีการรั่วไหลของกากตะกอนดินออกสู่ชุมชนข้างเคียง ทุก 6 เดือน MR, PDT
3. ไม่มีข้อร้องเรียนด้านสิ่งแวดล้อมจากชุมชนภายนอก 1 ครั้งต่อปี MR ส่วนโรงผลิตน้ำ
4. ไม่มีสารหล่อลื่น หรือสารเคมีอันตรายหกรั่วไหล 1 ครั้งต่อเดือน MR, MNT, LWQ
5. ผลการตรวจวัดสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือสิ่งแวดล้อมเป็นไปตามกฎหมาย 1 ครั้งต่อ 6 เดือน MR, Safety
6. มีข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมี Safety Date Sheet (SDS) ครบทุกรายการของสารเคมีที่ใช้ 1 ครั้งต่อ 6 เดือน MR, แผนกจัดหา และ LWQ
7. พนักงานสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยส่วนบุคคลตามลักษณะอันตรายทุกคน 1 ครั้งต่อ 6 เดือน MR, Safety
บริษัทฯ ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและให้ความสำคัญต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐาน ISO 14001 และการนำกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้งาน คือ ระบบ Zero Discharge โดยนำตะกอนที่ได้จากการผลิตน้ำประปาไปรีดน้ำออกและนำกากตะกอนออกไปจากกระบวนการผลิต ส่วนน้ำที่ได้จากการรีดตะกอนจะถูกนำย้อนกลับเข้าไปในกระบวนการผลิตใหม่ ซึ่งเท่ากับว่าตลอดการผลิตนั้นไม่มีการปล่อยน้ำกลับลงสู่แหล่งน้ำดิบอีกเลย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้สนับสนุนกิจกรรม Kaizen เพื่อปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดการดำเนินงานอย่างชัดเจน เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบที่เกิดต่อสิ่งแวดล้อมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน
การใช้น้ำแยกตามแหล่งที่มา
บริษัทฯ ผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้กับการประปาส่วนภูมิภาคในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม สมุทรสาคร และปทุมธานี โดยมีโรงผลิตน้ำประปาบางเลน จังหวัดนครปฐม และโรงผลิตน้ำประปาปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เป็นสถานที่ผลิตน้ำประปาและใช้แหล่งน้ำผิวดินที่อยู่ใกล้เคียงเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับกระบวนการผลิตน้ำประปา ได้แก่ แม่น้ำท่าจีน และ แม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีปริมาณการใช้น้ำจากแหล่งน้ำดังกล่าว ดังแสดงข้อมูลด้านล่าง
แหล่งน้ำ 2560 2561 2562 2563 หน่วย
แม่น้ำท่าจีน 155.64 165.79 166.02 179.75 ล้านลูกบาศก์เมตร
แม่น้ำเจ้าพระยา 147.96 159.77 161.48 161.00 ล้านลูกบาศก์เมตร
ปริมาณน้ำที่นำกลับมาใช้ใหม่
บริษัทฯ ออกแบบระบบการผลิตน้ำประปาให้มีการนำน้ำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยยึดหลักการ Water Discharge Minimization ซึ่งจะไม่ปล่อยน้ำใดๆ ให้สูญเสียไม่ว่าจะเป็นน้ำที่แยกออกมาจากระบบกำจัดตะกอนหรือน้ำที่ผ่านกระบวนการล้างย้อนถังกรองทราย โดยมีการออกแบบระบบที่จะรวบรวมน้ำตะกอนที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตน้ำประปามาทำการแยกน้ำออกจากตะกอนเพื่อส่งกลับไปยังระบบผลิตน้ำประปาอีกครั้ง โดยมีขั้นตอนการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ดังนี้
1. ถังควบคุมสมดุลตะกอน (Sludge Balancing Tank) ซึ่งทำหน้าที่รับน้ำตะกอน (Sludge) ที่เกิดจากระบบตกตะกอน (Clarifier) ตะกอนที่รวบรวมได้ภายในบ่อจะถูกสูบไปสู่ถังเพิ่มความข้นตะกอน (Sludge Thickener Tank)
2. ถังปรับปรุงน้ำล้างย้อน (Wash Water Tank) ทำหน้าที่รับน้ำและตะกอนที่ได้จากการล้างย้อน (Back Wash) ของระบบกรอง ส่วนนี้จะมีน้ำใสที่ถูกแยกออกจากตะกอนจะถูกสูบกลับเข้าสู่ระบบผลิตน้ำประปา เพื่อเป็นการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เรียกว่า "Recovery Water” ส่วนตะกอนที่ข้นขึ้นจะถูกสูบผ่านเครื่องสูบตะกอนเข้าสู่ถังเพิ่มความข้นตะกอน (Sludge Thickener Tank)
3. ระบบรีดตะกอน (Sludge Dewatering) เป็นระบบขั้นสุดท้ายในการรีดน้ำออกจากตะกอน (Sludge) เพื่อทำให้ตะกอนมีความแห้งมากที่สุดอีกทั้งเป็นการนำน้ำที่รีดได้ (Recovery Water) กลับมาผลิตใหม่อีกครั้งเช่นเดียวกัน
บริษัทฯ ได้มีการนำน้ำที่ผ่านกระบวนการกลับมาใช้ใหม่
ดังแสดงข้อมูลด้านล่าง
น้ำกลับมาใช้ใหม่ 2560 2561 2562 2563 หน่วย
โรงผลิตน้ำประปาบางเลน และโรงผลิตน้ำประปากระทุ่มแบน 2.32 1.82 1.78 3.68 ล้านลูกบาศก์เมตร
โรงผลิตน้ำประปาปทุมธานี 8.14 3.33 4.76 3.69 ล้านลูกบาศก์เมตร
กระบวนการหลักในการผลิตน้ำประปาของบริษัทฯ ประกอบด้วย กระบวนการสูบน้ำดิบ กระบวนการเติมสารเคมี กระบวนการตกตะกอน กระบวนการกรอง กระบวนการฆ่าเชื้อ และกระบวนการสูบส่ง ดังแสดงข้อมูลกระบวนการผลิตน้ำประปาตามแผนภาพด้านล่าง
จากแผนภาพข้างต้นจะเห็นว่าของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตน้ำประปาของบริษัทฯ จะมีเพียงตะกอน (Sludge) ที่ได้จากกระบวนการตกตะกอนและการล้างย้อนถังกรองทราย บริษัทฯ ได้มีการควบคุมดูแลและจัดการของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตน้ำประปาอย่างเป็นระบบ ดังแสดงข้อมูลการจัดการของเสียในกระบวนการผลิตตามแผนภาพด้านล่าง
แผนภาพแสดงการจัดการของเสียในกระบวนการผลิต
ปริมาณตะกอนดินที่เกิดขึ้น (ลบ.ม. ต่อปี)
ปริมาณตะกอน 2560 2561 2562 2563 หน่วย
โรงผลิตน้ำประปาบางเลน และโรงผลิตน้ำประปากระทุ่มแบน 7,627 10,943 13,683 18,677 ตัน
โรงผลิตน้ำประปาปทุมธานี 22,552 21,360 11,838 9,909 ตัน
รวม 30,179 32,303 25,521 28,586 ตัน
ปริมาณตะกอนที่นำไปใช้ในงานวิจัย 0 0 10 10 ตัน
การนำของเสียมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์
บริษัทฯ ร่วมกับ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดทำโครงการวิจัยตะกอนน้ำประปาเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ของโรงผลิตน้ำประปาปทุมธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มมูลค่าของเสียที่เกิดจากการผลิตน้ำประปา ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในประเภทงานก่อสร้างและส่งเสริมด้านความรับผิดชอบต่อสังคม มีผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากงานวิจัย ได้แก่ สารดูดซับฟลูออไรด์ อิฐบล็อกประสาน กระเบื้องปูพื้น และกระเบื้องตกแต่งดินเผา บริษัทฯ จะนำผลิตภัณฑ์ที่ได้ไปทำการศึกษาความเป็นไปได้ทางด้านเศรษฐศาสตร์ (Prefeasibility) งานวิจัยนี้จะส่งผลให้บริษัทฯ ลดภาระในการกำจัดของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตน้ำประปา และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการวิจัยจะถูกนำมาสร้างประโยชน์ร่วมกันระหว่างบริษัทฯ และชุมชนต่อไป
นอกจากนี้ บริษัทฯ ร่วมกับ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดทำโครงการวิจัยตะกอนน้ำประปาเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ของโรงผลิตน้ำประปาบางเลน วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิจัยตะกอนน้ำประปาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมวางแผนโปรแกรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ
ปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกอันเกิดจากสภาวะเรือนกระจก ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดํารงชีพของสิ่งมีชีวิต ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change : UNFCCC) สมัยที่ 21 (COP 21) โดยร่วมกับนานาประเทศในการดําเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้สามารถลดระดับความเข้มข้นของปริมาณก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศให้อยู่ในระดับต่ำ (Low Emission) ตลอดจนเพิ่มศักยภาพในการปรับตัวให้มีภูมิต้านทานและความสามารถในการฟื้นตัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate-Resilient Development) ที่จะทําให้เกิดการพัฒนาไปสู่สังคมเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Economy) และช่วยให้บรรลุผลสําเร็จตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals)
บริษัทฯ ใช้มาตรการในการดําเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยคํานึงถึงการดําเนินธุรกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการใช้กระแสไฟฟ้าจากภายนอก (ทางอ้อม) ซึ่งเป็นพลังงานหลักเพียงอย่างเดียวเพื่อนํามาใช้ผลิตน้ำประปาจนถึงกระบวนการจ่ายน้ำประปาให้กับผู้ใช้น้ำประปา โดยมีขอบเขตครอบคลุมโรงผลิตน้ำประปาทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงผลิตน้ำประปาบางเลน จังหวัดนครปฐม โรงผลิตน้ำประปากระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร และโรงผลิตน้ำประปาปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งได้แสดงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไว้ตามตารางดังนี้
ปริมาณตะกอน 2560 2561 2562 2563 หน่วย
โรงผลิตน้ำประปาบางเลน และโรงผลิตน้ำประปากระทุ่มแบน 61,837 63,795 63,260 67,887 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
โรงผลิตน้ำประปาปทุมธานี 42,112 44,231 44,663 44,026 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
รวม 103,949 108,026 107,923 111,913 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
บริษัทฯ ไม่สามารถดําเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคตได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากชุมชนและหน่วยงานในพื้นที่ที่ผ่านมา บริษัทฯ เข้าไปมีส่วนร่วมในการวางแผนและจัดทําโครงการอนุรักษ์พลังงาน อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และดูแลสิ่งแวดล้อมกับหน่วยงานภายนอก ดังนี้
1. บริษัทฯ เข้าร่วมโครงการ Care the Bear ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้ทรัพยากร และลดค่าใช้จ่ายจากการจัดงานอีเว้นท์ของบริษัทจดทะเบียน
2. บริษัทฯ ร่วมกับชมรมเรารักแม่น้ำท่าจีน จังหวัดนครปฐม โดยการเข้าร่วมประชุมประจําเดือนเพื่อรับทราบปัญหาและร่วมแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำท่าจีน เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมจิตสํานึกด้านการประหยัดน้ำและการอนุรักษ์แหล่งน้ำในชุมชนอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี
3. บริษัทฯ ร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นําผลงานวิจัยตะกอน ได้แก่ “กระเบื้องดินเผา” นําไปตกแต่งอาคารเรียนแก่โรงเรียนวัดราษฎร์ธรรมาราม จังหวัดสมุทรสาคร และโรงเรียนวัดสุขวัฒนาราม จังหวัดนครปฐม
4. บริษัทฯ ร่วมกับคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดําริ นําผลงานวิจัยตะกอน ได้แก่ “ปุ๋ยหมัก” มาจัด ทําปุ๋ยหมักจากตะกอนผสมกับขยะสดภายในโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 4 จังหวัดนครปฐม
5. บริษัทฯ ประสานงานกับสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ติดตามผลการเจริญเติบโตของต้นไม้ที่ปลูก ภายใต้โครงการ 1 ล้านกล้า สร้างป่าต้นน้ำ
6. บริษัทฯ สนับสนุนกิจกรรมสมุทรสาครร่วมใจ เก็บขยะทะเล ณ ศูนย์วิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 (สมุทรสาคร)
7. บริษัทฯ สนับสนุนตะกอนจากโรงผลิตน้ำประปาบางเลนแก่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) เพื่อประโยชน์ด้านการวิจัยทดลอง
8. บริษัทฯ สนับสนุนการวิจัยทุนวิจัยตะกอนแก่นักศึกษาปริญญาตรีมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่องการกําจัดความขุ่นในน้ำโดยใช้โปรตีนสกัดจากเมล็ดมะรุมเป็นสารตกตะกอน
9.บริษัทฯ สนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมการมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมของพนักงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พนักงานตระหนักถึงความสําคัญของการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในองค์กร อาทิเช่น การจัดกิจกรรม Big Cleaning Day การคัดแยกขยะ และการทําปุ๋ยหมักจากตะกอนผสมกับขยะสดภายในสํานักงานใหญ่ โดยได้รับความร่วมมือจากพนักงานทุกระดับเข้าร่วมกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ
10.บริษัทฯ ให้ความสําคัญในการดําเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกําหนดต่างๆ ที่ได้มีระบุไว้ในกฎหมายอย่างครบถ้วน