) สรุปข้อสนเทศ :TTW (แก้ไขข้อมูลเงินปันผลในตารางสถิติ)

ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) นโยบายการจ่ายเงินปันผล บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งจะพิจารณาถึงความต้องการใช้เงินตามเป้าหมายของบริษัทใน ระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า รวมถึงการรักษาระดับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อลด ความเสี่ยงทางด้านการเงินของบริษัทที่อาจจะเกิดขึ้น ในกรณีที่บริษัทเห็นว่าสามารถที่จะจ่ายเงินปันผลได้ บริษัทจะ พิจารณาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราสูงสุดเท่าที่เงินสดและกระแสเงินสดจะอำนวยเป็นลำดับแรก ทั้งนี้ จะไม่น้อย กว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล สำรองตามกฎหมาย และสำรองอื่นๆ ที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขของ สัญญาต่างๆ นอกจากนี้ สัญญาแก้ไขเพิ่มเติมต่อท้ายสัมปทานประกอบกิจการประปา ลงวันที่ 20 มีนาคม 2551 กำหนดให้บริษัท สามารถจ่ายเงินปันผลได้ต่อเมื่อมีการจัดสรรเงินกำไรสุทธิส่วนหนึ่งในอัตราร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิประจำปีไว้เป็นทุน สำรอง แม้ว่าทุนสำรองตามกฎหมายของบริษัทจะมีจำนวนร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนแล้วก็ตาม บริษัทย่อยของบริษัทไม่มีการกำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลไว้ชัดเจน โดยคณะกรรมการของบริษัทย่อยอาจ พิจารณาและเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาเห็นชอบการจ่ายเงินปันผลตามที่คณะกรรมการของบริษัทย่อยเห็นสมควร ทั้งนี้ ตามสัมปทานประกอบกิจการประปาของประปาปทุมธานีกำหนดให้สามารถจ่ายเงินปันผลได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของทุน ที่ให้แล้ว (ทุนที่เรียกชำระแล้ว) ทั้งนี้คาดว่าประปาปทุมธานีจะสามารถเริ่มจ่ายปันผลได้ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นไป และ ประปาปทุมธานีจะดำเนินการยื่นขอแก้ไขเงื่อนไขในสัมปทานเรื่องการจ่ายเงินปันผลต่อผู้ให้สัมปทานเพื่อให้สามารถจ่าย ปันผลภายใต้เงื่อนไขเดียวกับสัมปทานของน้ำประปาไทย บัตรส่งเสริมการลงทุน บริษัท บริษัทได้รับสิทธิประโยชน์จากการส่งเสริมการลงทุนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 ตามบัตร ส่งเสริมเลขที่ 1382(2)/2545 ประเภทกิจการ 7.1 กิจการสาธารณูปโภค และบริการพื้นฐาน สิทธิและประโยชน์ที่สำคัญ มี ดังนี้ 1. ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักรตามที่คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติ 2. ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้รับจากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมรวมกันไม่เกินร้อย ละ 100 ของเงินลงทุน ไม่รวมค่าที่ดิน และทุนหมุนเวียนมีกำหนดเวลา 8 ปี นับตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2547 จนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2555 ในกรณีที่ประกอบกิจการขาดทุนในระหว่างเวลาที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทจะได้รับ อนุญาตให้นำผลขาดทุนประจำปีที่เกิดขึ้นระหว่างเวลานั้นไปหักออกจากกำไรสุทธิที่เกิดขึ้น ภายหลังระยะเวลาได้รับยกเว้น ภาษีเงินได้นิติบุคคลมีกำหนดไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันพ้นกำหนดเวลานั้นโดยจะเลือกหักจากกำไรสุทธิของปีใดปีหนึ่งหรือ หลายปีก็ได้ 3. ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินปันผลจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไปรวมคำนวณเพื่อ เสียภาษีเงินได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น 4. ได้รับอนุญาตให้นำหรือส่งเงินออกนอกราชอาณาจักรเป็นเงินตราต่างประเทศได้ ประปาปทุมธานี ประปาปทุมธานีประปาปทุมธานีได้รับสิทธิประโยชน์จากการส่งเสริมการลงทุนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 ตามบัตรส่งเสริมเลขที่ 1739/2539 ประเภทกิจการ 7.2 การประปา หรือน้ำเพื่ออุตสาหกรรม สิทธิและ ประโยชน์ที่สำคัญ มีดังนี้ 1. ได้รับยกเว้นอากรขาเข้ากึ่งหนึ่งเฉพาะเครื่องจักรที่ไม่อยู่ในรายการปรับลดอากรขาเข้าตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก. 13/2533 เว้นแต่รายการเครื่องจักรที่มีอากรขาเข้าต่ำกว่าร้อยละ 10 จะไม่ได้รับการลดหย่อน 2. ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้รับจากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมมีกำหนดเวลา 8 ปี นับตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2541 จนถึงวันที่ 14 ตุลาคม 2549 ในกรณีที่ประกอบกิจการขาดทุนในระหว่างเวลาที่ได้รับ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทจะได้รับอนุญาตให้นำผลขาดทุนประจำปีที่เกิดขึ้นระหว่างเวลานั้นไปหักออกจากกำไร สุทธิที่เกิดขึ้น ภายหลังระยะเวลาได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลมีกำหนดไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันพ้นกำหนดเวลานั้นโดยจะ เลือกหักจากกำไรสุทธิของปีใดปีหนึ่งหรือหลายปีก็ได้ 3. ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินปันผลจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไปรวมคำนวณเพื่อ เสียภาษีเงินได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น 4. ได้รับอนุญาตให้นำหรือส่งเงินออกนอกราชอาณาจักรเป็นเงินตราต่างประเทศได้ จำนวนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2551 ปรากฏดังนี้ ร้อยละของ จำนวนราย จำนวนหุ้น ทุนชำระแล้ว 1 ผู้ถือหุ้นสามัญที่เป็น 1.1 กรรมการ ผู้จัดการ และผู้บริหาร รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและ 14 27,260,400 0.68% บุคคลที่มีความสัมพันธ์ 1.2 ผู้ถือหุ้นสามัญที่ถือหุ้น > 5 % โดยนับรวมผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย 3 2,808,027,400 70.38% 1.3 ผู้มีอำนาจควบคุม - - - 2 ผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อยที่ถือไม่ต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย 6,164 1,154,712,100 28.94% 3. ผู้ถือหุ้นสามัญที่ถือต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย 5 100 0.00% รวมผู้ถือหุ้นสามัญทั้งสิ้น 6,186 3,990,000,000 100.00% ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2551 หลัง IPO ก่อน IPO ร้อยละของ ร้อยละของ ชื่อ จำนวนหุ้น ทุนชำระแล้ว จำนวนหุ้น ทุนชำระแล้ว 1. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 1,406,777,400 35.26 1,549,839,400 47.11 2. บริษัท มิตซุย วอเตอร์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) 1,032,500,000 25.88 1,137,500,000 34.57 จำกัด(1) 3. บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 368,750,000 9.24 406,250,000 12.35 4. BNP PARIBAS SECURITIES (SINGAPORE) 162,344,500 4.07 - - PTE LTD (BNPPSS) 5. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 73,895,000 1.85 81,410,000 2.47 6. ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) 68,077,000 1.71 75,000,000 2.28 7. MORGAN STANLEY AND CO 61,078,000 1.53 - - INTERNATIONAL PLC 8. AMERICAN INTERNATIONAL ASSURANCE 50,000,000 1.25 - - COMPANY LIMITED 9. CITIGROUP GLOBAL MARKETS LIMITED- 28,760,000 0.72 - - LPB CUSTOMER COLLATERAL ACCOUNT 10. บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด 25,244,000 0.63 - - หมายเหตุ: (1) บจ.มิตซุย วอเตอร์โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) มีผู้ถือหุ้นใหญ่ ณ วันที่ 8 มีนาคม 2550 คือ มิตซุย แอนด์ โค ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนใน ประเทศญี่ปุ่น โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 100 ผู้ถือหุ้นต่างด้าว ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2551 บริษัทมีผู้ถือหุ้นต่างด้าว 93 ราย ถือหุ้นรวมกัน 386,893,500 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 9.70 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว หมายเหตุ บริษัทมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นต่างด้าวตามข้อบังคับของ บริษัทข้อ 9 ว่า "หุ้นของบริษัทสามารถโอนได้โดยไม่มีข้อจำกัด เว้นแต่ การโอนหุ้น นั้นเป็นเหตุให้หุ้นของบริษัทที่ถือโดยผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นผู้มีสัญชาติไทยมีจำนวนน้อยกว่า ร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท" คณะกรรมการ คณะกรรมการบริษัท ประกอบด้วยกรรมการจำนวน 11 ท่าน ดังนี้ ชื่อ ตำแหน่ง วันที่ดำรงตำแหน่ง 1. นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการ 24 มี.ค. 2549 2. นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ และ กรรมการ 2 ส.ค. 2548 3. นายณรงค์ แสงสุริยะ กรรมการ 8 ก.ย. 2543 4. นายประเสริฐ มริตตนะพร กรรมการ 30 ต.ค. 2543 5. ดร. สมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการ 8 ก.ย. 2543 6. นายโยชิโอะ โคเมตานิ กรรมการ 24 มี.ค. 2549 7. นายโตโมอะกิ มัตสุโมโต้ กรรมการ 24 มี.ค. 2549 8. นายสุวิช พึ่งเจริญ กรรมการ 26 ก.ย. 2549 9. นายเตชะพิทย์ แสงสิงแก้ว กรรมการ กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ 23 มิ.ย. 2549 10. นายสมนึก ชัยเดชสุริยะ กรรมการ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ 23 มิ.ย. 2549 11. นายไพรัช เมฆอาภรณ์ กรรมการ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ 23 มิ.ย. 2549 คณะกรรมการตรวจสอบ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2549 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2549 และที่ประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่ 5/2549 เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2549 ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการตรวจสอบ ประกอบด้วย 1. นายเตชะพิทย์ แสงสิงแก้ว ประธานกรรมการตรวจสอบ 2. นายสมนึก ชัยเดชสุริยะ กรรมการตรวจสอบ 3. นายไพรัช เมฆอาภรณ์ กรรมการตรวจสอบ หัวหน้าแผนกตรวจสอบภายในของบริษัททำหน้าที่เป็นเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบ ขอบเขต หน้าที่ และความรับผิดชอบ 1. สอบทานให้บริษัทมีรายงานทางการเงินอย่างถูกต้องและเปิดเผยอย่างเพียงพอ 2. สอบทานระบบการควบคุมภายใน (internal control) และการตรวจสอบภายใน (internal audit) ของบริษัทให้มีความ เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ 3. สอบทานการปฏิบัติของบริษัทให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรั พย์และตลาดหลักทรัพ ย์ ข้อกำหนดของตลาด หลักทรัพย์ หรือกฎหมายระเบียบข้อบังคับ และนโยบายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท 4. พิ จ รณาการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทในกรณีที่เกิดรายการที่เกี่ยวโยงกันหรือรายการที่อาจมีความขัดแย้งทาง ผลประโยชน์ให้มีความถูกต้อง ครบถ้วนและทันเวลา 5. พิจารณา คัดเลือก เสนอแต่งตั้ง และเสนอค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีของบริษั ทต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อเสนอขอ อนุมัติต่อผู้ถือหุ้น 6. จัดทำรายงานการกำกับดูแลกิจการของคณะกรรมการตรวจสอบโดยเปิดเผยไว้ในรายงานประจำปีของบริษัทซึ่ง รายงานดังกล่าวต้องลงนามโดยประธานคณะกรรมการตรวจสอบ 7. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการบริษัท มอบหมายและด้วยความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบ วาระการดำรงตำแหน่ง 1. ประธานกรรมการตรวจสอบ 3 ปี 2. กรรมการตรวจสอบ 3 ปี เงื่อนไขในการรับหลักทรัพย์ (ถ้ามี) ไม่มี ระยะเวลาห้ามจำหน่ายหุ้น ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปที่ถือหุ้นจำนวน 2,194,500,000 หุ้น คิด เป็นร้อยละ 55 ของทุนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป ให้คำรับรองต่อ ตลาดหลักทรัพย์ว่าจะไม่นำหุ้นจำนวนดังกล่าวออกจำหน่ายเป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ หลักทรัพย์ของบริษัทเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยเมื่อครบกำหนด ระยะเวลา 6 เดือน ผู้ถือหุ้นดังกล่าวได้รับการผ่อนผันให้ทยอยขายหุ้นหรือหลักทรัพย์ที่ ถูกสั่งห้ามขายได้ในจำนวนร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นหรือหลักทรัพย์ทั้งหมดที่ถูกสั่ง ห้ามขาย และเมื่อครบกำหนด 1 ปี สามารถขายส่วนที่เหลือได้ทั้งหมด ทั้งนี้ หุ้นที่ถูกห้ามขายจำนวน 1,368,972,600 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 62.38 ของหุ้นที่ถูก ห้ามขายทั้งหมด ได้รับการผ่อนผันการนำฝากกับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (TSD) เนื่องจาก ติดจำนำกับสถาบันการเงิน ซึ่งมีความเสี่ยงที่อาจถูกบังคับจำนำ โดยบริษัทให้คำรับรอง ว่า หากมีการไถ่ถอนจำนำและยังอยู่ในช่วงระยะเวลาการห้ามขาย บริษัทจะนำหุ้นดังกล่าว มาฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จนครบระยะเวลาการห้ามขาย การผ่อนผันของตลาดหลักทรัพย์ ไม่มี อื่น ๆ ที่สำคัญ (ถ้ามี) 1. การจ่ายเงินปันผล ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2551 ได้พิจารณาผลประกอบการของบริษัทแล้วคาดว่าบริษัทจะ สามารถจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท จากผลการดำเนินงานของบริษัทสำหรับรอบปี 2550 โดยจะนำเสนอต่อที่ ประชุมคณะกรรมการและ/หรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลตามหลักการที่ได้อนุมัติไว้ให้แก่ผู้ถือ หุ้นของบริษัทในไตรมาสที่สี่ของปี 2551 นอกจากนี้ ยังคาดว่าการจ่ายเงินปันผลในแต่ละคราว บริษัทสามารถจ่ายเงินปัน ผลในอัตราที่ไม่น้อยกว่าอัตราที่ประกาศจ่ายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่สามารถรับรองได้ว่าที่ประชุมคณะกรรมการ และ/หรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะอนุมัติให้บริษัท จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาทตามที่เสนอ และอัตราเงินปันผลที่บริษัทคาดว่าจะสามารถจ่ายได้ไม่น้อยกว่าอัตรา ที่เคยประกาศจ่ายไปแล้วนั้น อาจไม่เป็นตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้ได้ เนื่องด้วย การที่ผลประกอบการในอดีตที่ผ่านมาของ บริษัทดีขึ้นเป็นลำดับเรื่อยมานั้น มิได้เป็นการรับรองถึงผลประกอบการในอนาคตของบริษัท ด้วยเหตุที่ยังมีปัจจัยหลาย ประการที่อาจมีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท อาทิเช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับการประกอบกิจการ ประปาของภาครัฐ หรือการประกาศใช้บังคับกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องกับกิจการประปา เป็นต้น 2. ข้อตกลงระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทสองรายได้แก่ ช. การช่าง และ มิตซุยได้มีการทำสัญญาผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทไม่อยู่ภายใต้ บังคับของสัญญาดังกล่าว ซึ่งข้อสัญญาที่สำคัญมีต่อไปนี้ ทั้งนี้มีข้อสัญญาบางเรื่องที่เป็นข้อสัญญาที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ต้องตกลงร่วมกัน ซึ่งหากคู่สัญญาไม่อาจตกลงกันได้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ และฐานะการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ของบริษัทได้ (1) การกำหนดงบประมาณและบัญชี หากคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วยกับงบประมาณที่กำหนดขึ้นเพื่อดำเนินการสำหรับเรื่องใด บริษัทไม่ สามารถดำเนินการเรื่องดังกล่าวภายใต้งบประมาณที่ไม่เห็นชอบนั้น เว้นแต่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องดำเนินการ ภายใต้สัมปทานหรือสัญญาซื้อขายน้ำประปา ทั้งนี้ หากไม่สามารถดำเนินการได้ดังกล่าวมีผลกระทบต่อบริษัทจนไม่ สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ (Irreparable Effect) และคู่สัญญาไม่สามารถตกลงกันได้ มิตซุยมีสิทธิขายหุ้นที่ถืออยู่ใน บริษัทให้กับช. การช่าง และ ช.การช่าง มีสิทธิซื้อหุ้นทั้งหมดของมิตซุย ในราคาที่กำหนดโดยผู้เชี่ยวชาญ (2) การมีสิทธิซื้อหุ้นก่อน หากคู่สัญญาฝ่ายใดประสงค์จะขายหุ้นให้กับบุคคลภายนอก คู่สัญญาฝ่ายดังกล่าวจะต้องเสนอขายหุ้นจำนวน เดียวกันนั้นให้แก่ผู้ถือหุ้นอีกฝ่ายหนึ่งก่อน และเสนอขายในราคาเดียวกับที่จะเสนอขายบุคคลภายนอก ภายใต้วิธีการที่ กำหนดไว้ในสัญญา (3) Deadlock หากเกิดกรณีดังต่อไปนี้จนมีผลกระทบต่อบริษัทจนไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ (Irreparable Effect) และ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ มิตซุยมีสิทธิขายหุ้นให้กับช. การช่าง และ ช.การช่าง มีสิทธิซื้อหุ้นทั้งหมด ของมิตซุย (ก) เมื่อไม่เห็นชอบด้วยกับมติใดๆ ของที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือคณะกรรมการ (ข) กรณีที่กรรมการตัวแทนจาก ช. การช่าง หรือ Mitsui ไม่ได้เข้าร่วมประชุมติดต่อกัน 3 ครั้ง (ค) กรณีคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้เข้าร่วมประชุมติดต่อกัน 2 ครั้ง นอกจากนี้ ช. การช่าง และมิตซุยได้มีการทำสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาผู้ถือหุ้น ซึ่งมีข้อตกลงเกี่ยวกับการที่ ช. การช่าง และ มิตซุย เข้ามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการประปาปทุมธานีผ่านทางบริษัท โดยได้กำหนดเรื่องไว้เป็นการ เฉพาะ (Reserved Matter) ที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องเห็นชอบร่วมกันก่อน บริษัทจึงจะสามารถอนุมัติให้ประปา ปทุมธานีดำเนินการได้ ยกตัวอย่างเช่นการประกาศจ่ายเงินปันผล การเข้าทำสัญญาเกินกว่าจำนวนเงินที่กำหนด การก่อ ภาระผูกพันเกินกว่า 50 ล้านบาท การลงทุน การขยายธุรกิจ การกำหนดงบประมาณ การเปลี่ยนแปลงผู้สอบบัญชี เป็นต้น ทั้งนี้ เรื่องต่างๆ ดังกล่าวจะต้องเป็นเรื่องที่สามารถดำเนินการได้โดยชอบด้วยกฎหมาย สถิติ แสดงเฉพาะงบการเงินของบริษัท และบริษัทย่อยที่ผ่านการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม สามารถพิจารณางบเสมือนงบ การเงินรวมของบริษัท และบริษัทย่อยได้ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) โดยนักลงทุนสามารถดูข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดของหนังสือชี้ชวนดังกล่าวได้ทาง www.sec.or.th งบการเงิน บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (สำหรับปี 2548: งบการเงินเฉพาะของบริษัท, สำหรับปี 2549 ปี 2550 และไตรมาสที่ 1 ปี 2551: งบการเงินรวม*) (สำหรับปี 2548 - 2550: ตรวจสอบแล้ว, สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2551: ยังไม่ได้ตรวจสอบแต่สอบทานแล้ว) ---------------ล้านบาท-------- --------------------------บาท/หุ้น**-------- รายได้ กำไร กำไร มูลค่าหุ้น เงินปันผล ปี จากการ (ขาดทุน) (ขาดทุน) เงินปันผล ตามบัญชี ต่อกำไร(%) ขาย สุทธิ สุทธิ 2548 1,356.03 335.04 0.11 0.07 1.12 59.55 2549 1,697.80 674.41 0.21 0.10 1.21 48.19 2550 2,567.03 920.05 0.28 - 1.45 - ไตรมาสที่ 1 ปี 2551 844.96 305.53 0.09 - 1.53 - * สำหรับปี 2549 งบการเงินรวมจัดทำขึ้นโดยรวมงบการเงินของบริษัทและบริษัทย่อยซึ่งได้แก่ วอเตอร์โฟลว์ สำหรับปี 2550 และไตรมาสที่ 1 ปี 2551 งบการเงินรวมจัดทำขึ้นโดยรวมงบการเงินของบริษัทและบริษัทย่อย ซึ่งได้แก่ วอเตอร์ โฟลว์ ประปาปทุมธานี และบีเจที ** มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จำนวนหุ้นที่ใช้ในการคำนวณคือจำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่แสดงไว้ในงบการเงิน รายการที่สำคัญในงบการเงิน บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (สำหรับปี 2548: งบการเงินเฉพาะของบริษัท, สำหรับปี 2549 ปี 2550 และไตรมาสที่ 1 ปี 2551: งบการเงินรวม) งบดุล (หน่วย: พันบาท) 31 ธ.ค. 2548 31 ธ.ค. 2549 31 ธ.ค. 2550 31 มี.ค. 2551 (ยังไม่ได้ตรวจสอบ แต่สอบทานแล้ว) สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน เงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน 387,595 356,130 674,895 726,532 เงินลงทุนชั่วคราว 285,000 695,000 847,258 842,617 ลูกหนี้การค้า 126,433 217,596 292,704 319,783 รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 820,443 1,306,661 1,957,747 2,269,955 สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์-สุทธิ 9,536,450 9,355,964 9,196,857 9,127,210 สินทรัพย์ในการผลิตนำประปาสุทธิ - - 4,258,205 4,237,539 สิทธิในการดำเนินการผลิตและจำหน่ายน้ำประปา-สุทธิ - - 3,079,619 3,031,016 รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 9,540,521 9,375,284 16,723,402 16,429,210 สินทรัพย์รวม 10,360,964 10,681,945 18,681,149 18,699,165 หนี้สิน หนี้สินหมุนเวียน เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน - - 3,004,836 3,004,906 เจ้าหนี้การค้า กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 85,610 260 - - บริษัทอื่น 10,506 31,503 58,897 43,168 เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน ที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 140,000 700,000 1,411,800 1,436,715 รวมหนี้สินหมุนเวียน 293,147 772,085 4,705,064 4,633,419 หนี้สินไม่หมุนเวียน เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน-สุทธิ จากส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 6,720,000 6,020,000 9,261,312 9,045,447 หนี้สินรวม 7,013,147 6,792,085 13,966,376 13,678,866 ส่วนของผู้ถือหุ้น ทุนที่ออกและชำระแล้ว 3,000,000 3,250,000 3,290,000 3,290,000 ส่วนเกินมูลค่าหุ้น - 475,000 483,000 483,000 กำไรสะสม จัดสรรแล้ว-สำรองตามกฎหมาย 17,882 51,602 399,000 399,000 ยังไม่ได้จัดสรร 329,935 713,621 1,123,775 1,426,937 ผลแตกต่างของการจัดโครงสร้าง การดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท - (600,363) (600,363) (600,363) ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของบริษัทย่อย - - 19,361 21,725 รวมส่วนของผู้ถือหุ้น 3,347,817 3,889,860 4,714,773 5,020,299 รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 10,360,964 10,681,945 18,681,149 18,699,165 งบกำไรขาดทุน (หน่วย: พันบาท) 31 ธ.ค. 2548 31 ธ.ค. 2549 31 ธ.ค. 2550 ไตรมาสที่ 1 ปี 2551 (ยังไม่ได้ตรวจสอบ แต่สอบทานแล้ว) รายได้ (ยังมีต่อ)