03 December 2008

) ความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เรื่องรายการเกี่ยวโยงกัน

อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ถาวร (%) 5.79 9.84 11.58 14.05 อัตราการหมุนของสินทรัพย์ (เท่า) 0.13 0.16 0.18 0.19 อัตราส่วนวิเคราะห์นโยบายทางการเงิน อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) 2.09 1.75 2.96 1.16 อัตราส่วนความสามารถชำระดอกเบี้ย (เท่า) 3.21 2.70 2.51 3.36 อัตราส่วนในการชำระภาระผูกพัน (เท่า) 1.42 0.49 0.18 1.20 อัตราการจ่ายปันผล (%) 31.34 38.11 17.66 N/A สภาพคล่อง บริษัทมีเงินสดเพิ่มขึ้นจาก 356.13 ล้านบาท ในปี 2549 เป็น 674.89 ล้านบาทในปี 2550 โดยมีกระแสเงินสดสุทธิที่ เพิ่มขึ้นจากกระแสเงินสดรับจากกิจกรรมการดำเนินงานประมาณ 983.82 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการดีขึ้น จากกำไรในการดำเนินปกติของบริษัทที่มีการเติบโตจากปี 2549 อีกทั้งผลจากการรวมกระแสเงินสดจากการ ดำเนินงานของ PTW ซึ่งบริษัทได้เข้าลงทุนในปี 2550 รวมถึงจากกระแสเงินสดรับจากกิจกรรมจัดหาเงินจำนวน ประมาณ 3,695.81 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการจัดหาเงินการกู้ยืมสถาบันการเงินเพื่อใช้ในการซื้อหุ้นสามัญของ PTW เข้ามาเป็นบริษัทย่อยจำนวน 3,998.3 ล้านบาท (ประกอบด้วย เงินกู้ยืมระยะสั้นที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี จำนวน 3,000 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 998.3 ล้านบาท) เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินสำหรับ PTW เพิ่มขึ้นจำนวน 683.9 ล้านบาท (สุทธิจากการลดลงของเงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร) และการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 48 ล้านบาท หักกลบกับการจ่ายคืนเงินกู้ยืมระยะยาวของบริษัทจำนวน 871.9 ล้านบาท และการจ่ายเงินปัน ผลของบริษัทจำนวน 162.5 ล้านบาท ซึ่งตรงข้ามกับกระแสเงินสดที่ได้จากกิจกรรมลงทุนสุทธิที่มียอดลดลงจากปี 2549 ทั้งนี้ เนื่องจากในปี 2550 บริษัทได้มีการใช้เงินเพื่อซื้อเงินลงทุนในบริษัทย่อย (PTW และ BJT) เป็นจำนวนเงิน สุทธิ 3,498.49 ล้านบาท (รายละเอียดเพิ่มเติม ตามหมายเหตุประกอบงบการเงินประจำปี 2550 ข้อ 12 เรื่องเงิน ลงทุนในบริษัทย่อย) สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550 และ 2551 บริษัทมีเงินสดเพิ่มขึ้นจาก 541.47 ล้านบาท ในปี 2550 เป็น 1,079.74 ล้านบาท ในปี 2551 ตามลำดับ โดยการเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน โดยมีกระแสเงินสด สุทธิที่เพิ่มขึ้นจากกระแสเงินสดรับจากกิจกรรมการดำเนินงานสุทธิประมาณ 1,394.49 ล้านบาท เนื่องจากผล ดำเนินงานจากธุรกิจปกติของบริษัทมีการเติบโต ทั้งนี้ สาเหตุหลักอีกประการจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจของ บริษัท โดยการลงทุนเพิ่มดังเหตุที่กล่าวในวรรคต้น นอกจากนี้กระแสเงินสดรับจากกิจกรรมลงทุนสุทธิประมาณ 54.87 ล้านบาท ซึ่งตรงข้ามกับกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินสุทธิลดลง เนื่องจากในช่วงวลาเก้าเดือนในปี 2551 บริษัทจ่ายชำระคืนเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 2,989.94 ล้านบาท รวมทั้งจาก ชำระเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงิน 979.36 ล้านบาท แม้ว่าบริษัทจะได้รับเงินสดจากการออกหุ้นเพิ่มทุน แต่ก็มี จำนวนส่วนคงเหลือ (หลังจากใช้เงินสดรับจากการออกหุ้นเพิ่มทุนแล้ว) จำนวนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่บริษัท ต้องจ่ายชำระเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง จากการพิจารณาอัตราส่วนที่สำคัญทางการเงิน ซึ่งโดยภาพรวมของบริษัทสำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 อัตราส่วนสภาพคล่องลดลงจากปี 2549 ที่ 1.69 เท่า เป็น 0.42 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็วลดลงเช่นกัน จากปี 2549 ที่ 1.64 เท่า เป็น 0.39 เท่า ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทมีการกู้เงินเพิ่มเติม (เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบัน การเงิน) โดยการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยังส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากเดิม 1.75 เท่า ในปี 2549 เป็น 2.96 เท่า นอกจากนี้ สำหรับสิ้นปี 2550 ถึง งวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของ อัตราส่วนสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่ 0.42 เท่า เป็น 1.24 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็วเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากปี 2550 ที่ 0.39 เท่า เป็น 1.19 เท่า เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด จากการดำเนิน ปกติของบริษัทที่เติบโต รวมทั้งการลงทุนในบริษัทย่อย และการลดลงของเงินกู้ยืมระยะสั้นของสถาบันการเงินอย่างมี นัยสำคัญ 2.6 ผู้ถือหุ้น รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรกของบริษัท ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 ประกอบด้วย รายชื่อ จำนวนหุ้น ร้อยละ 1. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 1,408,777,400 35.31 2. บริษัท มิตซุย วอเตอร์ โฮลดิงส์ (ประเทศไทย) จำกัด 1,032,500,000 25.88 3. บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 368,750,000 9.24 4. HSBC (Singapore) Nominees Pte Ltd. 144,146,800 3.61 5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 141,399,174 3.54 6. ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 73,895,000 1.85 7. บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผู้ฝาก 58,025,100 1.45 8. Somers (U.K.) Limited 47,484,700 1.19 9. Chase Nominees Limited 1 43,351,400 1.09 10. Caceis Bank Luxembourg 38,556,000 0.97 รวมผู้ถือหุ้น 10 อันดับแรก 3,356,885,574 84.13 ผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ 633,114,426 15.87 รวมทั้งหมด 3,990,000,000 100.00 หมายเหตุ : เป็นรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินได้รับจากบริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) 2.7 คณะกรรมการบริษัท รายชื่อคณะกรรมการของบริษัท ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 ประกอบด้วย รายชื่อ ตำแหน่ง 1. นายปลิว ตรีวิศวเวทย์* ประธานกรรมการ 2. นายณรงค์ แสงสุริยะ* กรรมการ 3. นายประเสริฐ มริตตนะพร* กรรมการ 4. นายสมบัติ กิจจาลักษณ์* กรรมการ 5. นายโยชิโอะ โคเมตานิ กรรมการ 6. นายโตโมอะกิ มัตสุโมโต้ กรรมการ 7. นายสุวิช พึ่งเจริญ กรรมการ 8. นายเตชะทิพย์ แสงสิงแก้ว ประธานกรรมการตรวจสอบ 9. นายสมนึก ชัยเดชสุริยะ กรรมการตรวจสอบ 10. นายไพรัช เมฆอาภรณ์ กรรมการตรวจสอบ 11. นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ หมายเหตุ : * เป็นกรรมการที่เป็นผู้แทนของ CK 2.8 ข้อมูลของบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 2.8.1 ความเป็นมาและลักษณะการประกอบธุรกิจ CK เริ่มจดทะเบียนก่อตั้งเป็นบริษัทจำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรกจำนวน 1.40 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2515 เพื่อประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั่วไป โดยในระยะแรก ลักษณะงานของบริษัทเป็น การก่อสร้างอาคารและงานโยธาทั่วไป ซึ่งมีลูกค้าสำคัญ คือ หน่วยงานราชการ อาทิ กองทัพบก และ กองทัพอากาศ ต่อมาบริษัท ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจ เพื่อการเจริญเติบโตของ บริษัทในระยะยาว ดังนั้น ในปี 2524 บริษัทจึงได้เข้าร่วมทุนกับบริษัท โตคิว คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งเป็น ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ 1 ใน 10 รายแรกของประเทศญี่ปุ่น เพื่อประโยชน์ในการได้มาซึ่งการถ่ายทอด เทคโนโลยี ทั้งทางด้านการก่อสร้างและการบริหารรวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ บริษัทได้มีการขยายขอบเขตการทำธุรกิจ และได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อรองรับการขยายตัวทาง ธุรกิจที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2537 บริษัทได้ดำเนินการแปรสภาพเป็นบริษัท มหาชนจำกัดและได้เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2538 ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,450 ล้านบาทและทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 1,446 ล้านบาท 2.8.2 ลักษณะการประกอบธุรกิจ CK ดำเนินธุรกิจเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งการดำเนินการงานส่วนใหญ่เป็นโครงการต่าง ๆ ของ ภาครัฐบาล กล่าวคือ เป็นโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่และโครงการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ รวมถึง การร่วมทุนในกิจการสัมปทาน อาทิ โครงการทางด่วนพิเศษขั้นที่ 2 โครงการบริหารรถไฟฟ้าใต้ดิน โครงการออกแบบ พัฒนา ก่อสร้างและดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 2 ซึ่งแต่ละโครงการมี ระยะเวลาสัมปทาน 25 - 30 ปี โครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานผลิตน้ำประปา นครปฐม-สมุทรสาคร และโครงการสาธารูปโภคขั้นพื้นฐานผลิตน้ำประปาปทุมธานี โครงการสาธารูปโภคในเขตเทศบาลเมือง ภูเก็ต เป็นต้น ในส่วนของงานรับเหมาก่อสร้าง CK มีสัดส่วนรายได้ในภาครัฐต่อภาคเอกชนประมาณร้อย ละ 70 และร้อยละ 30 ตามลำดับ CK ดำเนินธุรกิจโดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ สายงานการผลิต สายงานการรับเหมาก่อสร้างและสายงาน สัมปทาน ซึ่งกลุ่มบริษัทมีการแบ่งแยกสายงานการผลิตของบริษัทย่อย กิจการร่วมค้าและบริษัทร่วม ตาม กลุ่มลักษณะการดำเนินธุรกิจ โดยปัจจุบันบริษัทมีบริษัทย่อย 7 บริษัท กิจการร่วมค้า 13 บริษัท บริษัท ร่วม 4 บริษัทและบริษัทที่เกี่ยวข้อง 1 บริษัท ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 CK มีสินทรัพย์รวม 24,286 ล้านบาท หนี้สินรวม 19,173 ล้านบาทและส่วน ของผู้ถือหุ้นรวม 5,112 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิสำหรับปี 2550 และงวดเก้าเดือนแรกของปี 2551 เท่ากับ 33 และ 570 ล้านบาท ตามลำดับ 2.8.3 ผลการดำเนินงาน สรุปฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของ CK ที่ผ่านการตรวจสอบจากบริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 โดยคุณรุทร เชาวนะกวี เป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลข ทะเบียน 3247 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 - 2550 และงบการเงินรวมของบริษัทสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 โดยคุณศิราภรณ์ เอื้ออนันต์กุล เป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขทะเบียน 3844 มีดังนี้ (หน่วย : ล้านบาท) งบการเงินรวม ตรวจสอบแล้ว สอบทานแล้ว 31 ธ.ค. 48 31 ธ.ค. 49 31 ธ.ค. 50 30 ก.ย. 51 สินทรัพย์หมุนเวียน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 1,542.69 3,033.26 2,682.32 1,532.04 ลูกหนี้การค้า กิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกัน - สุทธิ 5,045.96 5,489.45 1,228.04 1,377.92 สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น ๆ 10,619.76 10,120.03 7,547.20 9,057.81 รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 17,208.41 18,642.72 11,457.56 11,967.77 สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เงินลงทุนในบริษัทร่วม 4,014.01 4,674.35 4,549.03 4,688.17 เงินลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องและบริษัทอื่น - สุทธิ 2,611.18 2,967.35 2,918.22 2,042.32 สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น ๆ 5,989.33 4,029.48 5,550.96 5,587.41 รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 12,614.52 11,671.18 13,018.21 12,317.91 สินทรัพย์รวม 29,822.93 30,313.91 24,475.77 24,285.68 หนี้สินหมุนเวียน เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้น 5,510.20 3,822.85 2,664.68 2,398.81 เจ้าหนี้การค้ากิจการที่เกี่ยวข้องกัน 515.34 445.59 402.10 32.53 เจ้าหนี้การค้ากิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกัน 1,804.11 2,151.75 1,439.68 1,689.14 เงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 934.93 3,897.04 655.74 250.20 - หุ้นกู้ที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 2,200.00 1,700.00 3,700.00 เจ้าหนี้และเงินกู้ยืมจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 3,006.45 2,575.86 2,965.57 - (หน่วย : ล้านบาท) งบการเงินรวม ตรวจสอบแล้ว สอบทานแล้ว 31 ธ.ค. 48 31 ธ.ค. 49 31 ธ.ค. 50 30 ก.ย. 51 หนี้สินหมุนเวียนอื่น ๆ 4,338.95 3,714.53 2,274.02 1,599.77 รวมหนี้สินหมุนเวียน 16,109.98 18,807.62 12,101.79 9,670.45 หนี้สินไม่หมุนเวียน เงินกู้ยืมระยะยาว - สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดภายใน 1 ปี 2,430.55 450.00 250.00 1,904.47 หุ้นกู้-สุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 6,000.00 5,800.00 6,094.02 6,090.60 หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น ๆ 353.44 454.19 338.87 1,507.83 รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน 8,783.99 6,704.19 6,682.89 9,502.90 หนี้สินรวม 24,893.97 25,511.81 18,784.68 19,173.35 ทุนจดทะเบียน 1,450.00 1,450.00 1,450.00 1,450.00 ทุนที่ออกและชำระแล้ว 1,081.16 1,247.19 1,446.01 1,446.01 กำไรสะสม 913.98 (688.28) (58.08) 271.66 ส่วนของผู้ถือหุ้น 4,928.95 4,802.09 5,691.09 5,112.33 รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 29,822.93 30,313.91 24,475.77 24,285.68 รายได้รวม 14,954.97 21,605.29 14,918.08 10,568.07 ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม 13,239.73 21,439.70 13,894.46 9,334.68 ดอกเบี้ยจ่าย (652.25) (980.55) (939.89) (609.21) กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 684.17 (1,212.84) 33.44 570.27 กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.63 (1.08) 0.01 0.38 มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (บาท) 4.56 3.85 3.92 3.53 หมายเหตุ : มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ผลการดำเนินงานของ CK สำหรับงวดเก้าเดือนแรกสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 มีสินทรัพย์รวม 24,286 ล้านบาท (สินทรัพย์หลักที่สำคัญ ได้แก่ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ลูกหนี้การค้า-กิจการที่ไม่เกี่ยวข้อง งานระหว่าง ก่อสร้างตามสัญญา ในขณะที่สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ได้แก่ เงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บริษัทร่วมและดอกเบี้ยค้างรับ เงิน ลงทุนในบริษัทร่วม เงินลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกันและบริษัทอื่น) หนี้สินรวม 19,173 ล้านบาทและส่วนของผู้ถือหุ้น 5,112 ล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงานของ CK ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 มีสินทรัพย์รวม 24,476 ล้านบาท หนี้สินรวม 18,785 ล้านบาทและส่วนของผู้ถือหุ้น 5,691 ล้านบาท เทียบกับผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 มีสินทรัพย์ รวม 30,314 ล้านบาท หนี้สินรวม 25,512 ล้านบาทและส่วนของผู้ถือหุ้น 4,802 ล้านบาท โดยที่ CK มีสัดส่วนรายได้จาก 3 สายงานหลัก คือ รับเหมาก่อสร้าง ขายวัสดุก่อสร้างและบริหารโครงการ สำหรับผล การดำเนินงานงวดหกเดือนแรกสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2551 สัดส่วนรายได้คิดเป็นร้อยละ 90.16 0.49 และ 0.23 เมื่อเทียบกับรายได้รวม ตามลำดับ โดยมีรายได้อื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 9.12 และสัดส่วนรายได้ สำหรับผลการ ดำเนินงาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 มีสัดส่วนรายได้คิดเป็นร้อยละ 87.31 0.42 และ 0.22 เมื่อเทียบกับรายได้รวม ตามลำดับ โดยมีรายได้อื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 12.05 สำหรับรายได้รวมของ CK งวดเก้าเดือนแรกสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 เท่ากับ 10,568 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 570 ล้านบาท เทียบกับรอบระยะเวลาเดียวกันของปี 2550 ซึ่งมีรายได้รวมเท่ากับ 12,207 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 248 ล้านบาท โดยที่ผลประกอบการของ CK สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 สำหรับรอบระยะเวลา 3 เดือน และ 9 เดือน ของ CK เมื่อเทียบกับผลประกอบการสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกันกับปี 2550 CK มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 189.57 และร้อยละ 138.74 ตามลำดับ สาเหตุหลักเนื่องจากในรอบระยะเวลา 9 เดือน CK มีรายได้จากการโอนกลับ สำรองเผื่อผลขาดทุนจากเงินลงทุนในกิจการที่ควบคุมร่วมกัน 408.12 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องมาจากภาระหนี้สินที่ CK ต้องรับผิดชอบต่อกิจการร่วมค้าบีบีซีดีลดลง ตามข้อตกลงร่วมกันกับกลุ่มผู้ร่วมค้าในการแบ่งความรับผิดชอบภาระ หนี้สินของกิจการร่วมค้าดังกล่าว (รายละเอียดเพิ่มเติมจากหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อที่ 8 สำหรับงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และข่าวแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2551) สำหรับรอบระเวลา 3 เดือน ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 CK มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 0.82 ล้านบาท ในขณะที่ในไตรมาส เดียวกันของปีก่อน CK มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 130.15 ล้านบาท รวมถึงรายการดอกเบี้ยของ CK ลดลง เนื่องจากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีการชำระคืนเงินกู้ อีกทั้งมีส่วนแบ่งขาดทุน จากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง จากการที่บริษัทร่วมที่ CK ไปลงทุนมีผลประกอบการดีขึ้น ในขณะที่ รายได้รวมของ CK ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 เท่ากับ 14,918 ล้านบาท เทียบกับรอบระยะเวลาเดียวกัน ของปี 2549 ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 21,605 ล้านบาท โดยมีผลกำไรสุทธิประมาณ 14 ล้านบาท เทียบกับรอบ ระยะเวลาเดียวกันของปี 2549 ที่มีผลขาดทุนสุทธิประมาณ 1,213 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจาก CK มีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นจากปี 2549 จำนวน 1,227 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 101.20 เนื่องจากในปี 2549 ส่วนของค่าใช้จ่ายมี รายการบันทึกค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้เงินชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของกิจการร่วมค้า บีบีซีดี เป็น จำนวนเงินในงบกำไรขาดทุน 2,516 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาไม่บังคับตามคำชี้ขาดของ อนุญาโตตุลาการในการให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยชำระเงินให้แก่กิจการร่วมค้า บีบีซีดี แต่อย่างไรก็ตาม กิจการร่วมค้า บีบีซีดี ได้ยื่นฟ้องผู้ว่าจ้างต่อศาลแพ่งเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 เพื่อเรียกร้องค่าใช้จ่ายที่กิจการ ร่วมค้า บีบีซีดี ได้จ่ายไปรวมดอกเบี้ยคำนวณถึงวันฟ้องอีกครั้ง ทั้งนี้ คีดดังกล่าวอยู่ในระหว่างการส่งหมายเรียกและ คำฟ้องให้แก่ผู้ว่าจ้าง ทั้งนี้ หากพิจารณาจากรายได้รวมของ CK จะพบว่าในปี 2550 ในงบการเงินรวมมีรายได้รวมลดลงร้อยละ 30.95 เนื่องจากโครงการในอดีตที่ผ่านมาส่วนใหญ่ส่งมอบงานในปี 2549 เช่น โครงการวางท่อน้ำมันในสนามบินสุวรรณภูมิ โครงการก่อสร้างคลังน้ำมันในสนามบินสุวรรณภูมิ โครงการก่อสร้างอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนอร์ธ ปาร์ค เป็นต้น รวมทั้งโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ (บางพลี-บางขุนเทียน) ของการทางพิเศษแห่ง ประเทศไทย อยู่ในช่วงปลายโครงการก่อสร้าง ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและส่งมอบให้แก่การ ทางพิเศษแห่งประเทศไทยในเดือนตุลาคม 2550 ในขณะที่โครงการใหม่ส่วนใหญ่เป็นช่วงงานสำหรับการเตรียมงาน ก่อสร้าง CK จึงยังไม่สามารถรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งโครงการใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่ลงนามใน นามของ CK มากขึ้น ทำให้รายได้จากการขายวัสดุก่อสร้างและรายได้จากการบริหารโครงการที่ CK จะได้รับจากการ ขายวัสดุ รวมทั้งการส่งบุคลากรไปดำเนินงานลดลงจากปี 2549 นอกจากนี้สำหรับปี 2550 ส่วนของรายได้อื่น ๆ สาเหตุหลักสาเหตุหลักเป็นผลมาจากในปี 2549 บริษัทได้กำไรจาก การขายเงินลงทุนระยะสั้นสำหรับหุ้นสามัญของ TTW เป็นจำนวนเงิน 1,256 ล้านบาท และบริษัทต้องบันทึกรายได้ จากการโอนกลับดอกเบี้ยค้างจ่ายของกิจการร่วมค้า บีบีซีดี แต่ในขณะที่ปี 2550 บริษัทมีกำไรจากการจำหน่ายเงิน ลงทุนใน PTW ให้แก่ TTW จำนวนเงิน 631 ล้านบาท ซึ่งมีขนาดรายการน้อยกว่ากำไรที่ได้จากการขายหุ้น TTW อย่างมีนัยสำคัญ 2.8.4 อัตราส่วนที่สำคัญทางการเงิน งบการเงินรวม ตรวจสอบแล้ว สอบทานแล้ว 31 ธ.ค. 48 31 ธ.ค. 49 31 ธ.ค. 50 30 ก.ย. 51* อัตราส่วนสภาพคล่อง อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า) 1.07 0.97 0.95 1.24 อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว (เท่า) 0.26 0.17 0.25 0.44 อัตราส่วนหมุนเวียนลูกหนี้การค้า (เท่า) 5.07 3.20 3.25 4.80 ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย (วัน) 72 113 111 57 อัตราการหมุนเวียนสินค้าคงคลัง (เท่า) 44.53 89.60 26.55 18.58 ระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ย (วัน) 9 5 14 15 ระยะเวลาชำระหนี้ (วัน) 228 204 257 58 อัตราการหมุนเวียนเจ้าหนี้ (เท่า) 1.58 1.77 1.40 4.74 วงจรเงินสด (วัน) (149) (88) (133) 4 อัตราส่วนแสดงความสามารถในการหากำไร อัตรากำไรขั้นต้น (%) 13.34 9.49 8.31 10.62 อัตรากำไรสุทธิ (%) 4.57 (5.61) 0.10 5.25 อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (%) 14.07 (25.28) 0.28 10.27 อัตราส่วนแสดงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (%) 2.50 (4.40) 0.05 3.04 อัตราการหมุนของสินทรัพย์ (เท่า) 0.55 0.78 0.73 0.59 อัตราส่วนวิเคราะห์นโยบายทางการเงิน อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) 5.05 5.31 3.30 3.75 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) 2.28 1.85 1.47 1.32 อัตราส่วนความสามารถชำระดอกเบี้ย (เท่า) (2.53) 1.39 1.07 (0.58) อัตราส่วนในการชำระภาระผูกพัน (เท่า) (0.87) 0.00 0.40 (1.17) ที่มา : *บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) และสอบทานโดยที่ปรึกษาทางการเงิน สภาพคล่อง (ยังมีต่อ)