16 July 2009

) รายงานความเห็น IFA เกี่ยวกับรายการที่เกี่ยวโยงกันของ TTW

99.78% ญาติสนิท 60.00% 40.00% 50.00% 60.00% 75.00% 93.10% บมจ.ชลเวทย์โยธา บจก.ถาวรวงศ์ บจก.นำพลก่อสร้าง บจก.เวทย์ประเสริฐ บจก.เอกกำ ธร 41.67% บจก.มหาศิริสยาม 12.50% 12.50% 12.50% 12.50% 25.00% บจก. ช.การช่าง 12.50% 25.00% โฮลดิ้ง บจก. ซี เค ออฟฟิช ทาวเวอร์ 3.71% 25.00% 25.00% 10.49% 5.19% บจก.ที่ดินบางปะอิน 1.31% บมจ. ช.การช่าง 55.00% 20.43% บจก. ช.การช่าง-โตกิว คอนสตรัคชั่น 1.24% นายประเสริฐ มริตตนะพร บมจ. ทางด่วนกรุงเทพ นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ 15.32% 35.31% 0.05% 0.08% 9.24% บมจ.น้ำประปาไทย 0.09% นายณรงค์ แสงสุริยะ 0.05% หน้าที่ 8 ของจำนวนหน้าทั้งหมด 92 หน้า รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ 6. รายชื่อผู้ถือหุ้นที่อาจมีส่วนได้เสียในการเข้าซื้อสิทธิในครั้งนี้ และไม่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2552 ของบริษัท มีรายละเอียดดัง ต่อไปนี้ (ข้อมูล ณ วันปิดสมุด ทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2552) ลำดับ รายชื่อ จำนวนหุ้น % ของทุนชำระแล้ว 1. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 1,408,777,400 35.308% 2. บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 368,750,000 9.242% 3. นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ 3,000,100 0.075% 4. นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ 2,997,000 0.075% 5. นายณรงค์ แสงสุริยะ 2,000,100 0.050% 6. นายประเสริฐ มริตตนะพร 2,000,100 0.050% 7. นายประเสริฐ ตรีวิศวเวทย์* 700,000 0.018% 8. นายกำธร ตรีวิศวเวทย์ 20,000 0.001% รวม 1,788,244,700 44.818% หมายเหตุ : * บุคคลดังกล่าวเป็นญาติสนิทของนายปลิว ตรีวิศวเวทย์ และนายกำธร ตรีวิศวเวทย์ 1.2 ประเภทและขนาดของรายการ ที่ผ่า นมา บริ ษัทมี วิธี การขยายธุรกิจอยู่ 2 วิ ธี คื อ 1) การลงทุ นโดยบริ ษัทเป็น เจ้า ของทรัพ ย์สิน เอง เช่น การเข้า ร่ว ม ประมูลเพื่อให้ได้สิทธิในการขายน้ำประปาให้แก่ กปภ. เป็นระยะเวลา 30 ปี ตามสัญญาซื้อขายน้ำประปากับ กปภ. โดยบริษัท เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างระบบผลิตและจ่ายน้ำประปาทั้งหมด และเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินดังกล่าว โดยไม่ต้องโอนให้แก่ กปภ. เป็นต้น และ 2) การลงทุนโดยเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัทอื่น เพื่อรับรู้รายได้จากการประกอบธุรกิจของบริษัทนั้น เช่น การ เข้า ซื้อหุ้ นสามัญของบริษัท ประปาปทุม ธานี จำ กัด ("ประปาปทุม ธานี ") ซึ่ งได้ รับสิ ทธิใ นการขายน้ำ ประปาให้แก่ กปภ. เป็ น ระยะเวลา 25 ปี ตามสัญญาซื้อขายน้ำประปากับ กปภ. โดยประปาปทุมธานีเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างระบบผลิตและจ่ายน้ำประปา ทั้งหมด และต้องโอนระบบจ่ายน้ำประปาให้แก่ กปภ. ณ วันเริ่มประกอบการ และโอนระบบผลิตน้ำประปาให้แก่ กปภ. เมื่อครบ กำหนดตามระยะเวลาของสัญญา เป็นต้น ทั้งนี้ วิธีการขยายธุรกิจดังกล่าวมีข้อดีและข้อด้อย สรุปได้ดังนี้ วิธีการขยายธุรกิจ ข้อดี ข้อด้อย - เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน - ต้ อ งใช้ เ วลาในการจั ด ทำ ข้ อ เสนอ และขอ 1. การลงทุนโดยบริษัทเป็นเจ้าของทรัพย์สินเอง - มูล ค่ เงิ น ลงทุ น เป็น ไปตามต้ นทุ น ที่ เกิ ด ขึ้ น ใบอนุ ญ ต ทำ ให้ ไ ม่ ส มารถดำ เนิ น การ ประกอบธุรกิจได้ทันที จริง ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับค่าความนิยม - อาจมี ความเสี่ย งเกี่ย วกับ การก่ อ สร้ ง อั น เนื่องมาจากการก่อสร้างล่าช้า หรือต้นทุนค่า ก่อสร้างเพิ่มสูงกว่าที่ประมาณการไว้ - ไม่ได้ให้บริการแก่ผู้ใช้น้ำโดยตรง โดยมี กปภ. เป็นลูกค้าเพียงรายเดียว หน้าที่ 9 ของจำนวนหน้าทั้งหมด 92 หน้า รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ วิธีการขยายธุรกิจ ข้อดี ข้อด้อย 2. การลงทุนโดยเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัทอื่น - สามารถดำ เนิ น การได้ ทั น ที เพราะมี ก ร - มู ล ค่ ที่ จ ซื้ อ อาจต้ อ งจ่ ยเพิ่ ม สำ หรั บ ค่ ("ประปาปทุมธานี") ก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีใบอนุญาตครบถ้วน ความนิยม - สามารถขยายพื้นที่ของการให้บริการ - จะรั บ รู้ เ ป็ น รายได้ ต่ อ เมื่ อ มี ก รประกาศ จ่ายเงินปันผล - ต้อ งโอนกรรมสิท ธิ์ใ นทรัพ ย์สิ น (ระบบผลิ ต และจ่ายน้ำประปา) ให้แก่ กปภ. - อาจมี ภาระหนี้สิ นและภาระผู ก พัน เพิ่ มเติ ม ซึ่ ง อาจไม่ ส มารถตรวจสอบหรื อ รั บ รู้ ไ ด้ ครบถ้วน ณ วันที่ซื้อหุ้นสามัญ - ไม่ได้ให้บริการแก่ผู้ใช้น้ำโดยตรง โดยมี กปภ. เป็นลูกค้าเพียงรายเดียว อย่า งไรก็ต ม ในการขยายธุรกิจ ในครั้งนี้ บริษัท มีวัต ถุป ระสงค์ จะขยายการดำ เนิน ธุรกิจ โดยการเข้ ซื้อ สิท ธิในการ ดำเนินงานสำหรับการผลิตน้ำประปาและการให้บริการบำบัดน้ำเสียแก่ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จาก BLDC เนื่องจากบริษัทต้องการที่จะขยายขอบเขตการให้บริการในการดำเนินธุรกิจน้ำที่ครบวงจร กล่าวคือ เป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่ผลิต น้ำประปา จ่ายน้ำประปา และเรียกเก็บเงินจากลูกค้าภาคเอกชน ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำโดยตรง ซึ่งจะเป็นการขยายขอบเขตการให้บริการ ที่มากกว่าปัจจุบันที่เป็นเพียงผู้รับจ้างผลิตน้ำประปาให้แก่ กปภ. เพื่อให้ กปภ. ไปจำหน่ายต่อให้แก่ผู้ใช้น้ำต่อไป อีกทั้งจะเป็นการ ขยายขอบเขตพื้นที่ของการให้บริการ จากเดิมที่จำหน่ายน้ำประปาในพื้นที่ จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร ไปสู่นิคมอุตสาหกรรม บางปะอิ น ใน จ. พระนครศรี อ ยุ ธ ยา ซึ่ ง จะเป็ น การเปิ ด โอกาสให้ บ ริ ษั ท สามารถที่ จ ไปเสนอบริ ก รแบบเดี ย วกั น กั บ นิ ค ม อุตสาหกรรมแห่งอื่นๆ หรือพื้นที่อื่นๆ ได้ นอกจากนี้ การซื้อสิทธิในการดำเนินงานจะมีข้อดีเหมือนการลงทุนโดยเข้าซื้อหุ้นสามัญ ของบริษั ทอื่น กล่ วคือ สามารถเริ่มดำเนิ นการประกอบธุรกิจได้ทั นที โดยบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จากการประกอบธุรกิ จ ดังกล่าวในงบการเงินของบริษัทได้ทันที เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ประกอบการเอง อีกทั้งไม่ต้องรับภาระหนี้สินของ BLDC เข้ามาอยู่ ในงบการเงินรวมของบริษัท อย่างไรก็ตาม การซื้อสิทธิในการดำเนินงานจะมีข้อด้อยคล้ายกับการลงทุนโดยเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษั ทอื่น คื อ บริษัท ไม่ ได้เ ป็นเจ้า ของกรรมสิ ทธิ์ใ นทรั พย์ สิน ดังนั้ น เมื่อ ครบกำ หนดอายุ สัญญา บริษั ทจะต้อ งคืน สิท ธิในการ ดำเนินงานให้แก่ BLDC เหมือนกับกรณีที่ประปาปทุมธานีต้องโอนกรรมสิทธิ์ในระบบผลิตน้ำประปาให้แก่ กปภ. เมื่อครบกำหนด ตามสัญญา อีกทั้งบริษัทจะต้องจ่ายค่าซื้อสิทธิในการดำเนินงานในราคาที่สูงกว่ามูลค่าตามบัญชีของทรัพย์สินนั้น ซึ่งใกล้เคียงกับ กรณีที่บริษัทซื้อหุ้นสามัญของประปาปทุมธานีในราคาที่สูงกว่ามูลค่าตามบัญชีของประปาปทุมธานี ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2552 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2552 ได้มีมติให้บริษัทขยายการดำเนิน ธุรกิจ โดยการเข้าซื้อสิทธิในการบริหาร การดำเนินการ การพัฒนา การดูแล การซ่อมบำรุง การปรับปรุง การขาย การบริการ และ การจัดเก็บรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ (1) ระบบผลิตน้ำประปาเพื่อนำน้ำดิบมาผลิตเป็นน้ำประปาเพื่อจำหน่าย (2) ระบบสูบน้ำบาดาล เพื่อจำหน่าย และ (3) ระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อให้บริการ เป็นเวลา 30 ปี นับจากวันเริ่มประกอบกิจการในเขตนิคมอุตสาหกรรม บางปะอิน จาก BLDC ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่ และกรรมการร่วมกันกับบริษัท โดยบริษัทจะต้องจ่ายชำระค่าซื้อสิทธิในการดำเนินงาน ดังกล่าวเป็นจำนวนเงิน 1,400 ล้านบาท ซึ่งเมื่อคำนวณขนาดของรายการตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 และตามที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม หน้าที่ 10 ของจำนวนหน้าทั้งหมด 92 หน้า รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 จะมีมูลค่าของรายการเท่ากับร้อยละ 16.25 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มี ตัวตนสุทธิของบริษัทและบริษัทย่อย ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ 8,615.86 ล้านบาท ตามงบการเงินรวมของบริษัท สิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2552 โดยมี ขนาดของรายการเป็นจำ นวนมากกว่ 20 ล้านบาทและมากกว่าร้อ ยละ 3 ของมูลค่า สินทรั พย์ที่มีตั วตนสุ ทธิของ บริษัทและบริษัทย่อย จึงเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันที่ต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อนการทำรายการ ตามประกาศ ข้างต้นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตามมาตรา 89/12 แห่ง พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น ก่อนการ เข้าทำรายการนี้ บริษัทจะต้องเปิดเผยข้อมูลการทำรายการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดทำรายงาน รวมทั้งจัดประชุม ผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการทำรายการดังกล่าว โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นหรือผู้รับมอบฉันทะของผู้ถือหุ้น (ถ้ามี) ที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดย ไม่นับรวมส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย นอกจากนี้ ในร่างสัญญาให้สิทธิดำเนินการผลิต จำหน่ายและให้บริการ ฉบับลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 ได้กำหนดว่า ตลอดระยะเวลาของสัญญา บริษัทจะให้บริการน้ำประปาที่จ่ายให้แก่อาคารหรือสำนักงานของ BLDC และอาคารหรือสำนักงาน ของ กนอ. หรือเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ในปริมาณไม่เกิน 25,000 ลบ.ม.ต่อปี โดยถือว่าเป็นส่วน หนึ่งของค่าตอบแทนที่ชำระให้แก่ BLDC ตามร่างสัญญาดังกล่าว ทั้งนี้ น้ำประปาที่จะให้ BLDC หรือ กนอ. ใช้โดยไม่เก็บเงิน จะ มีมูลค่าประมาณ 562,500 บาทต่อปี (คำนวณโดยคิดค่าน้ำประปาในอัตรา 22.50 บาทต่อลบ.ม. ซึ่งเป็นอัตราค่าบริการที่เรียก เก็บจริง ณ ปัจจุบัน) ทั้งนี้ เมื่อคำนวณขนาดของรายการตามประกาศตลาดหลัก ทรัพย์ แห่ง ประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อ มูลและการ ปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 และตามที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมตามประกาศ คณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 ซึ่งในกรณีนี้ จะสามารถคำนวณตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนได้วิธีเดียว เนื่องจากเป็นการซื้อสิทธิในการดำเนินงาน โดยมีขนาดของรายการเท่ากับ ร้อยละ 7.34 ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัทและ บริษัทย่อย ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ 19,063.28 ล้านบาท ตามงบการเงินรวมของบริษัท สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 ซึ่งเป็นขนาด รายการที่ต่ำกว่าร้อยละ 15 และไม่เข้าข่ ยเป็นรายการได้ม ซึ่งสินทรัพย์ที่ต้องแจ้ งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และไม่ต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสำหรับการทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ ตามประกาศข้างต้นของตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย และตามมาตรา 89/29 แห่ง พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 1.3 รายละเอียดของสิทธิในการดำเนินงานที่บริษัทจะซื้อ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2532 BLDC ได้ลงนามในสัญญาร่วมดำเนินงานโครงการนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน กับ การ นิ ค มอุ ต สาหกรรมแห่ ง ประเทศไทย ("กนอ.") ในการจั ด ตั้ ง นิ ค มอุ ต สาหกรรมบางปะอิ น โดยได้ เ ริ่ ม ประกอบธุ ร กิ จ พั ฒ นา อสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย พร้อมทั้งให้บริการสาธารณูปโภค เช่น การจำหน่ายน้ำประปา การให้บริการบำบัดน้ำเสีย การให้บริการ ชุมชน และการให้บริการกำจัดขยะ เป็นต้น แก่ผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทุนจัดตั้งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินตั้งแต่ปี 2534 อย่างไรก็ตาม ต่อมา บริษัท และ BLDC ซึ่งมีนายปลิว ตรีวิศวเวทย์ เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นร่วมกัน ได้เล็งเห็นว่า การที่ บริษัทเข้าซื้อสิทธิในการดำเนินงานของ BLDC จะเป็นการเปิดโอกาสในการขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจ และขยายพื้นที่ของ การให้บ ริก รให้แ ก่บริ ษัท และทำให้ บริ ษัทสามารถรับ รู้รายได้จากการประกอบธุรกิจได้ทั นที ในขณะเดี ยวกั น BLDC ซึ่ง เป็ น เจ้าของสิทธิในการดำเนินงาน จะได้รับผลตอบแทนจากการขายสิทธิดังกล่าวเป็นจำนวน 1,400 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำไปใช้ หน้าที่ 11 ของจำนวนหน้าทั้งหมด 92 หน้า รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ชำระหนี้เงินกู้ และหรือลงทุนเพิ่มเติมในโครงการอื่นๆ ได้ และหรือสำรองสำหรับการดำเนินงาน ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ครั้งที่ 5/2552 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2552 ได้มีมติให้บริษัทเข้าลงทุนซื้อสิทธิในการดำเนินงานจาก BLDC โดย BLDC ตกลงให้สิทธิในการบริหาร การดำเนินการ การพัฒนา การดูแล การซ่อมบำรุง การปรับปรุง การขาย การบริการ และการจัดเก็บ รายได้ ที่เ กี่ย วข้ องกับ (1) ระบบผลิต น้ำ ประปาเพื่อ นำ น้ำ ดิบ มาผลิ ตเป็น น้ำ ประปาเพื่อ จำ หน่ ย (2) ระบบสู บนํ้ บาดาลเพื่ อ จำหน่าย และ (3) ระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อให้บริการตามสัญญานี้ แก่บริษัทแต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลา 30 ปี นับจากวันเริ่มประกอบ กิจการในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ในการนี้ ณ ปัจจุบัน บริษัท และ BLDC ยังไม่ได้กำหนดหรือตัดสินใจเกี่ยวกับแผน ดำเนินการภายหลังจากการสิ้นสุดของสัญญาให้สิทธิดำเนินงานว่า จะดำเนินการต่ออายุสัญญา หรือปล่อยให้สัญญาสิ้นสุดไป ตามระยะเวลาที่กำหนด เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ในอนาคตที่มีระยะเวลาห่างจากเวลาในปัจจุบันมาก (โปรดดูสรุปสาระสำคัญของร่างสัญญาให้สิทธิดำเนินการผลิต จำหน่ายและให้บริการ ("ร่างสัญญาให้สิทธิดำเนินงาน") ฉบับลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 ในเอกสารแนบ 1) ทั้งนี้ ในการซื้อสิทธิในการดำเนินงานตามที่กล่าวข้างต้น บริษัทมีแผนที่จะใช้สิทธิดังกล่าวในการดำเนินการผลิตและ จำหน่า ยนํ้ ประปา ประเภทแหล่ งนํ้ ผิ วดิ น ด้ว ยกำลั งการผลิ ตสูง สุด 48,000 ลบ.ม.ต่ อวั น และให้บ ริก รบำ บัด น้ำ เสี ย ด้ว ย ความสามารถในการบำบัดสูงสุด 18,000 ลบ.ม.ต่อวัน แก่ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 139 หมู่ 2 ถนนอุดมสรยุทธ ตำ บลคลองจิ ก อำเภอบางปะอิ น จังหวัด พระนครศรีอยุธยา โดยจะยั งคงถือครองสิทธิใ นการผลิต น้ำประปา ประเภทน้ำบาดาล ไว้สำรองใช้ในกรณีที่แหล่งน้ำธรรมชาติมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอเท่านั้น มูลค่าการลงทุน มูลค่าตามบัญชี และอายุการใช้งานคงเหลือของทรัพย์สินที่บริษัทจะได้สิทธิในการบริหารและจัดการ สรุปได้ดังนี้ ประเภททรัพย์สิน มูลค่าการลงทุน มูลค่าตามบัญชี ณ วันที่ อายุการใช้งานคงเหลือ (ปี) (ล้านบาท) 31 ธ.ค. 2551 (ล้านบาท) (ประมาณการโดย BLDC) 1. ทรัพย์สินที่ใช้ในการผลิตน้ำประปา 30 ปี - สถานีสูบน้ำดิบ 113.98 - ระบบผลิตน้ำประปา 261.42 - ระบบจ่ายน้ำ 51.08 315.73 1/ รวม 426.48 2. ทรัพย์สินที่ใช้ในการผลิตน้ำบาดาล 13 ปี - บ่อบาดาล 21.60 - ถังเก็บน้ำ 40.00 - ปั๊มบาดาล 2.70 - เส้นท่อระบบจ่ายน้ำประปา 15.00 n.a. 2/ รวม 79.30 3. ทรัพย์สินที่ใช้ในการบำบัดน้ำเสีย 3.1) ระบบบำบัดน้ำเสียเดิม 15 ปี - งานโครงสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย 220.00 - เส้นท่อระบบำบัดน้ำเสีย 5.00 - ห้องควบคุม 2.50 - ปั๊ม 4.50 n.a. 2/ รวม 232.00 หน้าที่ 12 ของจำนวนหน้าทั้งหมด 92 หน้า รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ประเภททรัพย์สิน มูลค่าการลงทุน มูลค่าตามบัญชี ณ วันที่ อายุการใช้งานคงเหลือ (ปี) (ล้านบาท) 31 ธ.ค. 2551 (ล้านบาท) (ประมาณการโดย BLDC) 3.2) ระบบบำบัดน้ำเสียใหม่ 30 ปี - 3/ - เครื่องเติมอากาศ 28.89 รวม 260.89 รวมทั้งหมด 766.67 หมายเหตุ: 1/ เป็นมูลค่างานระหว่างก่อสร้างที่บันทึกอยู่ในงบการเงินของ BLDC โดยทรัพย์สินที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาได้เริ่มใช้งานตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 เป็นต้นมา 2/ ไม่สามารถคำนวณหามูลค่ ตามบัญชี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ได้ เนื่ องจาก BLDC ได้บัน ทึกเงินลงทุนดั งกล่า วรวมอยู่ใ นรายการ อสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ซึ่งมีการทยอยตัดจ่ายเป็นต้นทุนขายตามการขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 อสังหาริมทรัพย์เพื่อ ขายมีมูลค่าตามบัญชีเท่ากับ 11.07 ล้านบาท 3/ BLDC ได้ว่าจ้างบริษัทภายนอกเพื่อปรับปรุงและเพิ่มขีดความสามารถของระบบบำบัดน้ำเสีย ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 28.89 ล้านบาท โดย ณ (ยังมีต่อ)