16 July 2009
) รายงานความเห็น IFA เกี่ยวกับรายการที่เกี่ยวโยงกันของ TTW
รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
- ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 15 กันยายน 2551 ประกอบด้วย
รายชื่อผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น % ของทุนชำระแล้ว
1. นายถาวร ตรีวิศวเวทย์ 2,411,473 26.79
2. นายประเสริฐ ตรีวิศวเวทย์ 2,281,895 25.35
3. นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ 1,993,633 22.15
4. นายเทพ ตรีเวศวเวทย์ 937,837 10.42
5. นายกำธร ตรีวิศวเวทย์ 753,948 8.38
6. นางสาวรวงข้าว พรหมแพทย์ 621,213 6.90
7. นางสายเกษม ตรีวิศวเวทย์ 1 0.00
รวม 9,000,000 100.00
ที่มา : สำเนารายชื่อผู้ถือหุ้นของ บริษัท มหาศิริสยาม จำกัด
2/ บริษัท ซีเค. ออฟฟิซ ทาวเวอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ (พื้นที่) และให้บริการสาธารณูปโภค
- คณะกรรมการ ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2552 ประกอบด้วย
รายชื่อกรรมการ ตำแหน่ง
1. นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ กรรมการ
2. นายประเสริฐ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการ
3. นายเทพ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการ
4. นายยิ้ม ตรีวิศวเวทย์ กรรมการ
5. นายกำธร ตรีวิศวเวทย์ กรรมการ
6. นายประเสริฐ ทองกิตติกุล กรรมการ
ที่มา : หนังสือรับรองของบริษัท ซีเค.ออฟฟิซ ทาวเวอร์ จำกัด
- ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2551 ประกอบด้วย
รายชื่อผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น % ของทุนชำระแล้ว
1. บริษัท มหาศิริสยาม จำกัด 750,000 25.00
2. นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ 375,000 12.50
3. นายกำธร ตรีวิศวเวทย์ 375,000 12.50
4. นายถาวร ตรีวิศวเวทย์ 375,000 12.50
5. นายเทพ ตรีวิศวเวทย์ 375,000 12.50
6. นายประเสริฐ ตรีวิศวเวทย์ 375,000 12.50
7. นายยิ้ม ตรีวิศวเวทย์ 375,000 12.50
รวม 3,000,000 100.00
ที่มา : สำเนารายชื่อผู้ถือหุ้นของ บริษัท ซีเค.ออฟฟิซ ทาวเวอร์ จำกัด
หน้าที่ 20 ของจำนวนหน้าทั้งหมด 92 หน้า
รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
1.5.6 สรุปฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน
หน่วย : พันบาท
2549 2550 2551
รายการ
จำนวนเงิน % จำนวนเงิน % จำนวนเงิน %
รายได้
รายได้จากการขาย 109,884 29.83% 11,382 3.89% 85,166 24.42%
รายได้จากค่าบริการสาธารณูปโภค 181,414 49.24% 200,588 68.61% 203,196 58.27%
ดอกเบี้ยรับ 41,641 11.30% 34,247 11.71% 37,429 10.73%
เงินปันผลรับ 6,627 1.80% 947 0.32% 2,840 0.81%
กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุน - 0.00% 22,658 7.75% - 0.00%
รายได้อื่น 28,844 7.83% 22,554 7.71% 20,110 5.77%
รวมรายได้ 368,410 100.00% 292,375 100.00% 348,741 100.00%
ค่าใช้จ่าย
ต้นทุนขายและให้บริการ 200,273 54.36% 193,957 66.34% 225,148 64.56%
ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร 32,817 8.91% 24,322 8.32% 30,824 8.84%
รวมค่าใช้จ่าย 233,089 63.27% 218,279 74.66% 255,972 73.40%
กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ 135,321 36.73% 74,096 25.34% 92,769 26.60%
ดอกเบี้ยจ่าย (20,911) -5.68% (20,060) -6.86% (27,729) -7.95%
ภาษีเงินได้ (33,365) -9.06% (16,709) -5.71% (19,241) -5.52%
กำไรสุทธิ 81,045 22.00% 37,326 12.77% 45,799 13.13%
หน่วย : พันบาท
2549 2550 2551
รายการ
จำนวนเงิน % จำนวนเงิน % จำนวนเงิน %
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินสด และเงินฝากสถาบันการเงิน 8,321 0.92% 8,438 0.90% 8,108 0.61%
เงินลงทุนในเงินฝากประจำ 5,581 0.62% 5,758 0.61% 5,889 0.44%
ลูกหนี้การค้า 29,866 3.32% 41,060 4.38% 38,148 2.88%
อสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 14,764 1.64% 11,073 1.18% 11,073 0.84%
สินทรัพย์ หมุนเวียนอื่น
ดอกเบี้ยค้างรับ 3,222 0.36% 7,923 0.85% 20,613 1.55%
อื่นๆ 487 0.05% 518 0.06% 2,225 0.17%
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 62,241 6.92% 74,770 7.98% 86,056 6.49%
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
เงินให้กู้ยืมแก่กรรมการ - 0.00% 50,750 5.41% 73,850 5.57%
เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 488,856 54.31% 404,105 43.11% 594,249 44.82%
เงินลงทุนในบริษัทร่วม - 0.00% - 0.00% - 0.00%
เงินลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 169,468 18.83% 160,001 17.07% 68,545 5.17%
หน้าที่ 21 ของจำนวนหน้าทั้งหมด 92 หน้า
รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
หน่วย : พันบาท
2549 2550 2551
รายการ
จำนวนเงิน % จำนวนเงิน % จำนวนเงิน %
ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์-สุทธิ 163,455 18.16% 231,599 24.71% 476,002 35.90%
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น 16,060 1.78% 16,060 1.71% 27,060 2.04%
รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 837,840 93.08% 862,515 92.02% 1,239,706 93.51%
รวมสินทรัพย์ 900,080 100.00% 937,285 100.00% 1,325,762 100.00%
หนี้สินหมุนเวียน 0.00%
เจ้าหน้าที่การค้า 97,955 10.88% 83,718 8.93% 92,975 7.01%
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 0.00%
ค่าน้ำประปาค้างจ่าย 19,910 2.21% 23,383 2.49% 22,756 1.72%
เจ้าหนี้อื่น - 0.00% 62,824 6.70% 238,681 18.00%
ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย 15,513 1.72% 11,103 1.18% 9,297 0.70%
อื่นๆ 10,207 1.13% 7,386 0.79% 6,168 0.47%
รวมหนี้สินหมุนเวียน 143,585 15.95% 188,414 20.10% 369,877 27.90%
หนี้สินไม่หมุนเวียน
เงินกู้ยืมจากกรรมการ 80,600 8.95% - 0.00% - 0.00%
เจ้าหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อ สุทธิ 312 0.03% - 0.00% - 0.00%
เงินกู้ยืมระยะยาว 257,037 28.56% 309,850 33.06% 559,051 42.17%
หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น - 0.00% - 0.00% 3,471 0.26%
รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน 337,948 37.55% 309,850 33.06% 562,522 42.43%
รวมหนี้สิน 481,533 53.50% 498,264 53.16% 932,399 70.33%
ส่วนของผู้ถือหุ้น
ทุนเรือนหุ้น
ทุนจดทะเบียน
(หุ้นสามัญ 2.4 ล้านหุ้น หุ้นละ 100 บาท) 240,000 26.66% 240,000 25.61% 240,000 18.10%
ทุนที่ออก และเรียกชำระแล้ว
(หุ้นสามัญ 2.4 ล้านหุ้น หุ้นละ 100 บาท) 240,000 26.66% 240,000 25.61% 240,000 18.10%
กำไรสะสม
จัดสรรแล้ว สำรองตามกฎหมาย 9,000 1.00% 9,000 0.96% 9,000 0.68%
ยังไม่ได้จัดสรร 41,007 4.56% 78,333 8.36% 124,132 9.36%
กำไรที่ยังได้ได้เกิดขี้นจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของเงินลงทุน 128,540 14.28% 111,688 11.92% 20,232 1.53%
รวมส่วนของผู้ถือหุ้น 418,547 46.50% 439,021 46.84% 393,364 29.67%
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 900,080 100.00% 937,285 100.00% 1,325,762 100.00%
ที่มา : งบการเงินของ BLDC ตรวจสอบแล้วโดย นายมารุต มกรเสน ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 6532
หน้าที่ 22 ของจำนวนหน้าทั้งหมด 92 หน้า
รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
อัตราส่วนทางการเงิน 2549 2550 2551
อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า) 0.43 0.40 0.23
อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว (เท่า) 0.27 0.26 0.13
อัตราการหมุนเวียนลูกหนี้การค้า (เท่า) 10.47 5.98 7.28
ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย (วัน) 34 60 49
อัตราการหมุนเวียนเจ้าหนี้ (เท่า) 2.61 2.14 2.55
ระยะเวลาชำระหนี้ (วัน) 138 169 141
อัตรากำไรขั้นต้น (%) 31.25% 8.50% 21.92%
อัตรากำไรสุทธิ (%) 22.00% 12.77% 13.13%
อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (%) 19.87% 8.71% 11.00%
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (%) 8.28% 4.06% 4.05%
อัตราการหมุนของสินทรัพย์ (เท่า) 0.38 0.32 0.31
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) 1.15 1.13 2.37
การวิเคราะห์ผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของ BLDC
ผลการดำเนินงาน
BLDC มีรายได้รวมในปี 2549 - 2551 จำนวน 368.41 ล้านบาท 292.38 ล้านบาท และ 348.74 ล้านบาท ตามลำดับ
โดยรายได้หลักจากการประกอบธุรกิจ ได้แก่ รายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และรายได้จากการให้บริการ
สาธารณูปโภค ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 291.30 ล้านบาท 211.97 ล้านบาท และ 288.36 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 79.07
ร้อยละ 72.50 และร้อยละ 82.69 ของรายได้รวม ตามลำดับ ทั้งนี้ ถึงแม้ ว่ารายได้ค่าบริการสาธารณูปโภคจะมีจำนวนเพิ่มขึ้ น
อย่างต่อเนื่องตามความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น จาก 181.4 ล้านบาทในปี 2549 เป็น 200.6 ล้านบาท และ 203.2 ล้านบาท
ในปี 2550 และ 2551 ตามลำดับ แต่รายได้หลักจากการประกอบธุรกิจในปี 2550 และ 2551 มีมูลค่ารวมลดลง เนื่องมาจากมี
การทยอยรับรู้รายได้จากการขายที่ดินลดลงในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
สำหรับ รายได้ซึ่ งไม่ไ ด้เ กิด จากการดำเนิน ธุรกิจ ที่สำคั ญ ได้แ ก่ รายได้จ กดอกเบี้ย รับ ซึ่ง มีจำนวน 41.64 ล้ นบาท
34.25 ล้านบาท และ 37.43 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.30 ร้อยละ 11.71 และร้อยละ 10.73 ของรายได้รวมในปี 2549-
2551 ตามลำดับ โดยเป็นดอกเบี้ยรับจากการให้เงินกู้ยืมแก่กรรมการและบริษัทที่เกี่ยวข้องกันเป็นสำคัญ ซึ่งคิดดอกเบี้ยในอัตรา
ร้อยละ 6.75 - 8.25 ต่อปี ในปี 2550 และร้อยละ 7.25 - 7.50 ต่อปีในปี 2551
ต้นทุนขายและให้บริการของ BLDC ประกอบด้วย ค่าพัฒนาที่ดิน ต้นทุนสาธารณูปโภค ค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักร
และอุปกรณ์ และค่าธรรมเนียมที่ BLDC ต้องจ่ายให้กับ กนอ. เป็นหลัก โดยในปี 2549-2551 มีจำนวนเท่ากับ 200.27 ล้านบาท
193.96 ล้านบาท และ 225.15 ล้านบาท หรือคิ ดเป็นอัตราส่วนต้นทุนขายและให้บริการต่อรายได้ห ลักจากการประกอบธุรกิ จ
เท่ากับร้อยละ 68.75 ร้อยละ 91.50 และร้อยละ 78.08 ตามลำดับ ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ ร้อยละ 31.25 ร้อยละ 8.50
และร้ อยละ 21.92 ตามลำ ดับ สาเหตุที่อัต ราส่ว นต้นทุ นขายและให้บริ การต่ อรายได้หลั กจากการประกอบธุรกิจในปี 2550 มี
สัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นผลมาจากมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซ่อมแซมและปรับปรุงพื้นที่ในโรงเก็บกาก การขุดลอกคลองและ
รางระบายน้ำ และการทำลานจอดรถในพื้นที่เขตปลอดอากร เป็นจำนวนรวม 43.24 ล้านบาท
หน้าที่ 23 ของจำนวนหน้าทั้งหมด 92 หน้า
รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
ในปี 2549-2551 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สำคัญของ BLDC ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน ค่
นายหน้า ค่าเบี้ยประกันภัย และค่าเช่าอาคาร เป็นต้น มีจำนวนเท่ากับ 32.82 ล้านบาท 24.32 ล้านบาท และ 30.82 ล้านบาท
หรือคิดเป็นร้อยละ 8.91 ร้อยละ 8.32 และร้อยละ 8.84 ของรายได้รวม ตามลำดับ ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีสัดส่วน
ค่อนข้างคงที่ คือ อยู่ระหว่างร้อยละ 8-9 ของรายได้รวม เนื่องมาจากการควบคุมและบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพของ BLDC
จากผลประกอบการตามที่กล่าวข้างต้น ส่งผลให้ BLDC มีกำไรสุทธิในปี 2549 - 2551 เท่ากับ 81.05 ล้านบาท 37.33
ล้านบาท และ 45.80 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ ร้อยละ 22.00 ร้อยละ 12.77 และร้อยละ 13.13 ตามลำดับ
หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 33.77 บาท 15.56 บาท และ 19.08 บาท ตามลำดับ
ฐานะการเงิน
ในปี 2549-2551 สินทรัพ ย์รวมของ BLDC มีจำนวน 900.08 ล้านบาท 937.29 ล้ นบาท และ 1,325.76 ล้านบาท
ตามลำดับ โดยสินทรัพย์ส่วนใหญ่ได้แก่ เงินให้กู้ยืมแก่กรรมการและบริษัทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 54.31 ร้อยละ 48.52
และ ร้อยละ 50.39 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ และ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 18.16 ร้อยละ 24.71 และ ร้อย
ละ 35.90 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ ทั้งนี้ สาเหตุที่ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ มีสัดส่วน และมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก
163.46 ล้านบาทในปี 2549 เป็น 231.60 ล้านบาท ในปี 2550 และ เป็น 476.00 ล้านบาท ในปี 2551 เนื่องมาจากในปี 2550
BLDC ได้เริ่มก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปาและระบบจ่ายน้ำประปาในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน มูลค่าก่อสร้างรวมทั้งสิ้นเป็น
จำนวน 426.5 ล้านบาท โดยได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อต้นปี 2552 นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2551 BLDC ยังได้มี
การลงทุนเพื่อขยายขีดความสามารถของระบบบำบัดน้ำเสียจาก 12,000 ลบ.ม./วัน เป็น 18,000 ลบ.ม./วัน มูลค่าโครงการรวม
28.89 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2552 โดยอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ในปี 2549-
2551 เท่ากับ ร้อยละ 8.28 ร้อยละ 4.06 และ ร้อยละ 4.05 ตามลำดับ
หนี้สินรวมของ BLDC มีจำนวน 481.53 ล้านบาท 498.26 ล้านบาท และ 932.40 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 53.50
ร้อยละ 53.16 และร้อยละ 70.33 ของสินทรัพย์รวมตามลำดับ ในปี 2549-2551 โดยหนี้สินส่วนใหญ่ของ BLDC จะเป็นเงินกู้ยืม
ระยะยาวจากสถาบันการเงิน คิดเป็นร้อยละ 53.38 ร้อยละ 62.19 และร้อยละ 59.96 ของหนี้สินรวม ตามลำดับ นอกจากนี้ ในปี
2551 BLDC มีเจ้า หนี้อื่นเพิ่มขึ้นเป็น 238.68 ล้านบาท คิด เป็นร้ อยละ 25.60 ของหนี้สินรวม ซึ่ง เป็นยอดค้างชำระสำ หรับค่
ก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปาและการขยายขีดความสามารถของระบบบำบัดน้ำเสีย ทั้งนี้ ยอดหนี้สินที่เพิ่มขึ้นในปี 2551 ส่งผลให้
BLDC มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มสูงขึ้น จาก 1.15 เท่า และ 1.13 เท่า ในปี 2549-2550 ตามลำดับ เป็น 2.37 เท่า ในปี 2551
ในปี 2549-2551 ส่วนของผู้ถือหุ้นของ BLDC มีจำนวน 418.55 ล้านบาท 439.02 และ 393.36 ล้านบาท หรือคิดเป็น
ร้อยละ 46.50 ร้อยละ 46.84 และร้อยละ 29.67 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ ทั้งนี้ สาเหตุที่ส่วนของผู้ถือหุ้นในปี 2551 มีจำนวน
ลดลง ทั้งๆ ที่ BLDC มีผลประกอบการเป็นกำไรสุทธิ เนื่องจาก BLDC มีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุน
ลดลงอย่างมาก จาก 111.69 ล้านบาทในปี 2550 เหลือ 20.23 ล้านบาทในปี 2551 ทั้งนี้ เป็นผลมาจากมูลค่าหุ้นของบริษัทที่
BLDC เข้าไปลงทุนมีราคาตลาดลดลงตามภาวะการณ์ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าลดลงอย่างมากในช่วงปลายปี 2551
อันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจทางการเงินของโลกและประเทศ และปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ ในปี 2549 -
2551 BLDC มีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเท่ากับ ร้อยละ 19.87 ร้อยละ 8.71 และร้อยละ 11.00 ตามลำดับ ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นและ
ลดลงของอัตราส่วนดังกล่าวเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นและลดลงของกำไรสุทธิเป็นสำคัญ
หน้าที่ 24 ของจำนวนหน้าทั้งหมด 92 หน้า
รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
1.6 ข้อมูลโดยสรุปของบริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน)
1.6.1 ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการที่สำคัญของบริษัท
บริษัท น้ำ ประปาไทย จำ กัด (มหาชน) ("บริ ษัท") ประกอบธุรกิจ เกี่ย วกับการผลิตและจำ หน่ายน้ำประปาให้กั บการ
ประปาส่ วนภู มิภาค (กปภ.) ในพื้ นที่ อำเภอนครชั ยศรี อำ เภอสามพราน อำเภอพุท ธมณฑลในจัง หวัด นครปฐม อำ เภอเมือ ง
สมุทรสาคร และอำเภอกระทุ่มแบนในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อทดแทนการใช้น้ำบาดาลของภาคเอกชนและการผลิตน้ำประปาจาก
บ่อนํ้ บาดาลของ กปภ. รวมทั้ง เพื่ อเพิ่มปริม ณการผลิต น้ำ ประปาให้เ พีย งพอต่ อความต้อ งการของผู้ บริ โภคที่ เพิ่ มขึ้ นอย่า ง
ต่อเนื่อง อันเป็นการช่วยแก้ปัญหาแผ่นดินทรุดและน้ำเค็มแทรกในชั้นบาดาลตามนโยบายของรัฐบาล
บริษัทได้จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2543 ภายใต้ชื่อ บริษัท วีเคซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด (ต่อมาได้
เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท น้ำประไทย จำกัด) เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการและพัฒนาที่ดินเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน
ตามโครงการผลิตและจำหน่ายน้ำประปา โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง บมจ.ช.การช่าง กับกลุ่มเธมส์ วอเตอร์ ในสัดส่วนการถือหุ้น
ร้อยละ 50 และร้อยละ 50 ตามลำดับ ด้วยทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว 100,000 บาท (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท)
ต่อมาบริษัทได้เข้าทำสัญญาซื้อขายน้ำประปากับ กปภ. ในวันที่ 21 กันยายน 2543 ซึ่งสัญญาดังกล่าวมีอายุ 30 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่
21 กรกฎาคม 2547 และสิ้นสุดวันที่ 20 กรกฎาคม 2577 โดยมีลักษณะสัญญาเป็นแบบ Build Own Operate ("BOO") กล่าวคือ
บริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในระบบผลิตน้ำประปาและระบบจ่ายน้ำประปาและไม่ต้องโอนระบบผลิตน้ำประปาและระบบจ่าย
น้ำประปาให้แก่ กปภ. นอกจากนี้ ภายใต้สัญญาซื้อขายน้ำประปายังได้กำหนดให้มีปริมาณน้ำขั้นต่ำที่ กปภ. ต้องซื้อจากบริษัท
("MOQ") ตลอดระยะเวลา 30 ปี โดยมีลักษณะ MOQ แบบเพิ่มขึ้นตลอดอายุของสัญญาดังนี้
ระยะเวลาเริ่มต้น ระยะเวลาสิ้นสุด ปริมาณน้ำขั้นต่ำที่ กปภ. ต้องซื้อ (ลบ.ม./วัน)
21 กรกฎาคม 2547 20 กรกฎาคม 2549 200,000
21 กรกฎาคม 2549 20 กรกฎาคม 2551 250,000
21 กรกฎาคม 2551 20 กรกฎาคม 2577 (สิ้นสุดสัญญา) 300,000
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ เข้าทำสัญญาแก้ไขเพิ่ม เติมกับ กปภ. เมื่อวัน ที่ 29 ธันวาคม 2551 โดย กปภ. ตกลงที่จะซื้ อ
น้ำประปาขั้นต่ำเพิ่มขึ้นจาก 300,000 ลบ.ม./วัน เป็น 354,000 ลบ.ม./วัน ทั้งนี้ จะทยอยรับซื้อน้ำประปาเพิ่มขึ้น โดย ณ วันเริ่ม
ซื้อขายน้ำประปาส่วนเพิ่มวันแรก จะเริ่มต้นจาก 309,000 ลบ.ม./วัน ภายใน 660 วัน นับแต่วันลงนามในสัญญาหรือไม่เกินวันที่
19 ต.ค. 53 และจะปรับเพิ่มขึ้นทุกรอบปี ๆ ละ 9,000 ลบ.ม./วัน จนกระทั่ง MOQ มีจำนวนเท่ากับ 354,000 ลบ.ม./วัน ตลอด
(ยังมีต่อ)