13 August 2009

รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2552

เลขที่ TTW/0577/09 13 สิงหาคม 2552 เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2552 และผลการดำเนินงานที่ เปลี่ยนแปลงจากงวดเดียวกันของปี 2551 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีผลการดำเนินงาน ประจำไตรมาสสอง สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2552 และ 2551 จำนวน 398.1 ล้าน บาท และ 307.7 ล้านบาทตามลำดับ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงาน ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ และบริษัทย่อยมี ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.4 ดังนั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงการเปลี่ยนแปลงใน ส่วนที่มีสาระสำคัญดังต่อไปนี้ 1) รายได้จากการขายน้ำประปารวม เพิ่มขึ้นจำนวน 139.9 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.3เนื่องจาก ก) รายได้ จ กการขายน้ำประปาของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจำนวน 98.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 เนื่องจาก (1) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 เป็นต้นไป ปริมาณน้ำประปาขั้น ต่ำ (MOQ) ที่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) รับซื้อเปลี่ยนจาก 250,000 ลบ.ม./ วัน เป็น 300,000 ลบ.ม./วัน โดยบริษัทฯ จะให้ส่วนลดกับ กปภ. เมื่อยอดขาย น้ำประปาของบริษัทฯ สูงกว่า MOQ ในแต่ละช่วงเวลา ในไตรมาสสองปี 2552 บริษัทฯ มียอดขายน้ำประปาต่ำกว่า 300,000 ลบ.ม./วัน บริษัทฯ จึงคิดราคาขายน้ำประปาในราคาเท่ากับ 23.55 บาท/ ลบ.ม. ในขณะที่ ใ นไตรมาสสองปี 2551 บริษัทฯ มียอดขายน้ำ ประปาเฉลี่ย 297,795 ลบ.ม./วัน ซึ่งสูงกว่า MOQ โดยส่วนที่สูงกว่า MOQ บริษัทฯ คิดราคา ขายน้ำประปาในราคาเท่ากับ 10.24 บาท/ลบ.ม. คิดเป็นส่วนลดเท่ากับร้อยละ 55 จากราคาตามสัญญาฯ (2) ตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 ที่ผ่านมา กปภ. ซื้อน้ำประปาจาก บริษัทฯ ต่ำกว่า 300,000 ลบ.ม./วัน (MOQ) ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาฯ ดังนั้น บริษัทฯ จึงบันทึกรายได้จากการที่ กปภ. ซื้อน้ำประปาต่ำกว่า MOQ จำนวน 34.5 ล้านบาท (1.5 ล้านลบ.ม.) และ (3) ราคาขายน้ำประปาที่ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ข) รายได้ จากการขายน้ำ ประปาของบริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด (บริษัทย่อย) เพิ่มขึ้นจำนวน 41.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 เนื่องจาก ยอดจ่ายน้ำประปาของบริษัทย่อยเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเพิ่มขึ้นร้อย ละ 4.3 และราคาขายน้ำประปาที่ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2) ต้นทุนขายน้ำประปาและบริการเพิ่มขึ้นจำนวน 3.1 ล้านบาทหรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและค่าเสื่อมราคาจากการ ปรับปรุงระบบส่งและจ่ายน้ำจำนวน 3.4 ล้านบาท 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงจำนวน 7.6 ล้านบาท หรือลดลง ร้อยละ 18.6 เนื่องจาก ไตรมาสสองปี 2551 บริษัทฯ บันทึกค่าใช้จ่ายที่ปรึกษา กฎหมายสำหรับการนำหุ้นบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทยจำนวน 11 ล้านบาท 4) ค่าใช้จ่ายทางการเงิน ลดลง 71.8 ล้านบาทหรือลดลงร้อยละ 39.5 เนื่องจาก ก) ในเดือนพฤษภาคม 2551 บริษัทฯ ได้จ่ายชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 3,000 ล้านบาททั้งจำนวน ข) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 บริษัทฯ ได้ออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี 5 ปี และ 7 ปีจำนวน 7,000 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 4.53 ต่อปี เพื่อ จ่ายชำระคืนเงินกู้ระยะยาวจำนวน 5,839.8 ล้านบาท ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ย MLR-1% ค) อัตราดอกเบี้ ยเงิน กู้ยื มระยะยาวของบริษัทย่อยลดลงโดยใน ไตรมาสสองปี 2552 เงินกู้ยืมระยะยาวมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 5.88 ต่อปี (ไตรมาสสองปี 2551: ร้อยละ 6.75 ต่อปี) 5) ภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นจำนวน 122.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อย ละ 12,700.8 เนื่องจากบริษัทย่อยได้รับหนังสือแจ้งการเปลี่ยนแปลงผลขาดทุน สุทธิจากสำนักงานสรรพากรพื้นที่ซึ่งจากการประเมินของสำนักงานดังกล่าว บริษัทย่อยจะต้องจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมจำนวน 122.1 ล้านบาท เพื่อลด ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต บริษัทย่อยจึงบันทึกภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังกล่าว อย่า งไรก็ตาม บริษัทย่อยไม่เ ห็นด้วยกับการประเมินดังกล่าว จึงได้ยื่น อุทธรณ์คัดค้านการประเมินภาษีอากร ซึ่งปัจจุบันเรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการ พิจารณาของกรมสรรพากร จึงเรียนมาเพื่อกรุณาทราบ ขอแสดงความนับถือ (สมโพธิ ศรีภูมิ) กรรมการผู้จัดการ