นโยบายบริษัท
บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) ตระหนักดีว่าทุกคนต่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรีในตนเองอย่างเท่าเทียมกัน จึงได้ให้ความสำคัญต่อการเคารพสิทธิมนุษยชนอันเป็นคุณธรรมพื้นฐานของการทำงานและการอยู่ร่วมกัน
นโยบายฉบับนี้กำหนดเพื่อใช้กับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นในอนาคตภายหน้าทั้งในประเทศไทยหรือต่างประเทศ รวมถึงส่งต่อให้กับคู่ค้าธุรกิจนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจและส่งเสริมการมีส่วนร่วม ในห่วงโซ่อุปทานซึ่งมีความสำคัญต่อการเคารพสิทธิมนุษยชนที่ส่งผลสำหรับธุรกิจด้านน้ำ พลังงานและสิ่งแวดล้อมของบริษัท
มิติบรรษัทภิบาล/เศรษฐกิจ
นโยบายการบริหารความเสี่ยง
บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) มุ่งมั่นที่จะดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมายการดำเนินธุรกิจสร้างมูลค่าเพิ่มและความมั่นคงเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ และสอดคล้องตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) คณะกรรมการบริษัทฯ จึงกำหนดนโยบายการบริหารความเสี่ยง โดยนโยบายนี้มีผลบังคับใช้ในการปฏิบัติงานของผู้บริหารและพนักงานทุกท่าน
นิยามความเสี่ยง
ความเสี่ยง คือ เหตุการณ์ไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ
นโยบายการบริหารความเสี่ยง
-
1
เพื่อให้มั่นใจถึงการบรรลุวัตถุประสงค์เชิงธุรกิจและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย บริษัทฯ จะรักษาสมดุลระหว่างระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนจากโอกาสในการดำเนินธุรกิจ โดยให้มีความเสี่ยงอยู่ในระดับที่บริษัทฯ ยอมรับได้
-
2
ผู้บริหารและพนักงานทุกคนจะต้องมีความตระหนัก และให้ความสำคัญกับความเสี่ยงต่างๆ ของบริษัทฯ โดยเฉพาะความเสี่ยงที่อยู่ภายในหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง
-
3
ผู้บริหารและพนักงานจะส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมบริหารความเสี่ยงในบริษัทฯ เพื่อให้การบริหารความเสี่ยงมีความยั่งยืนและเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงานประจำวัน
-
4
เหตุการณ์ทั้งหมดที่อาจส่งผลกระทบในเชิงลบ ต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ จะต้องได้รับการปฏิบัติ ดังนี้
-
4.1
บ่งชี้และประเมินระดับความเสี่ยงทั้งทางด้านโอกาสเกิดและผลกระทบ อย่างทันการณ์
-
4.2
จัดการให้ความเสี่ยงอยู่ในระดับที่บริษัทฯ ยอมรับได้ โดยอาศัยกิจกรรมการควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นโดยพิจารณาถึงต้นทุนและผลประโยชน์ของการจัดทำการควบคุมนั้น
-
4.3
ติดตามการบริหารความเสี่ยงของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าความเสี่ยง ของบริษัทฯ ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม
-
ความรับผิดชอบ
- คณะกรรมการบริษัท อนุมัตินโยบายการบริหารความเสี่ยง ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk Appetite) ระดับเบี่ยงเบนที่ยอมรับได้ (Risk Tolerance) กำกับดูแลการนำนโยบายไปปฏิบัติ โดยอาจมอบหมายอำนาจนี้ให้แก่คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงของบริษัทฯ
- คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง มีหน้าที่กำกับดูแลการนำกรอบการบริหารความเสี่ยงของบริษัทฯ ไปปฏิบัติ ติดตามการระบุความเสี่ยง ประเมินความเสี่ยง ความเพียงพอของการจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ การรายงานความเสี่ยง และการปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย
- คณะกรรมการตรวจสอบ มีหน้าที่จัดให้มีการสอบทานการปฏิบัติตามกระบวนการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการดังกล่าวได้รับการนำไปปฏิบัติอย่างเพียงพอและเหมาะสมภายในบริษัทฯ
- กรรมการผู้จัดการ มีหน้าที่ในการนำนโยบายการบริหารความเสี่ยงไปปฏิบัติ โดยการกำหนดแนวทางสำหรับผู้บริหารและพนักงานในการบริหารความเสี่ยง การจัดสรรทรัพยากรให้พอเพียง และการติดตาม ให้มีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
- ทีมงานบริหารความเสี่ยง มีหน้าที่ให้คำแนะนำการนำการบริหารความเสี่ยงไปปฏิบัติทั่วทั้งองค์กร และสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ปฏิบัติตามนโยบาย และคู่มือการบริหารความเสี่ยง
- ผู้บริหารและพนักงานทุกคน มีหน้าที่ในการปฏิบัติตามนโยบายและคู่มือการบริหารความเสี่ยงที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น
- ทีมงานตรวจสอบภายใน มีหน้าที่สอบทานประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการบริหารความเสี่ยงการสื่อสาร การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงและควบคุมภายในทีมงานบริหารความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ และจัดทำแผนการตรวจสอบภายในให้สอดคล้องกับข้อมูลความเสี่ยงที่ได้รับ
แนวทางการดำเนินธุรกิจของคู่ค้า
บริษัท ทีทีดับลิว จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) มีความมุ่งมั่นในการร่วมปกป้อง คู่ค้าของบริษัทฯ จากความเสี่ยงของการดำเนินธุรกิจอันมาจากประเด็นทางกฎหมาย ข้อบังคับและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความเสี่ยงของการหยุดชะงักในการดำเนินธุรกิจอันอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ชื่อเสียงในประเด็นทางด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านจริยธรรมทางธุรกิจ
ขอบเขต
คำว่า “คู่ค้า” ภายใต้แนวทางปฏิบัติ หรือ Supplier Code of Conduct ฉบับนี้ ครอบคลุมถึง คู่ค้าที่มีข้อตกลงในการซื้อสินค้าหรือบริการกับบริษัทฯ โดยไม่คำนึงถึงชนิดของผลิตภัณฑ์และการให้บริการ ดังนั้น คู่ค้าจึงไม่จำกัดเฉพาะเพียงตัวแทนจำหน่าย โบรกเกอร์ ที่ปรึกษา ผู้รับเหมา ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าที่จำหน่ายของผลิตภัณฑ์ หรือบริการเท่านั้น แนวทางปฏิบัติฉบับนี้มีการบังคับใช้อย่างเป็นสากล ภายในบริษัทฯ และมีความคาดหวังว่าคู่ค้าที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ การควบคุมทางการเงินของบริษัทฯ จะมีความคาดหวังในคู่ค้าเอง ในระดับเดียวกันกับบริษัทฯ
นโยบาย
บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า ชื่อเสียงและสำนึกรับผิดชอบอันดีของบริษัทฯ จะถูกส่งต่อไปยัง "คู่ค้า" ทุกครั้งที่มีการจัดหา ไม่ว่าจะเป็นด้านสินค้า ด้านบริการ และด้านกระบวนการทางธุรกิจ โดยบริษัทฯ ได้ให้คำนิยาม ด้านความยั่งยืนของแนวทางการดำเนินธุรกิจไว้ 3 ด้าน ดังนี้
-
1.
ด้านสิ่งแวดล้อม
-
1.1
การบริหารการจัดการสิ่งแวดล้อม คู่ค้าต้องมีระบบจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ที่สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ซึ่งสามารถนำไปสู่การพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
-
1.2
ประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คู่ค้าต้องมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาประสิทธิภาพด้านพลังงานของกระบวนการทางธุรกิจซึ่งมีส่วนทำให้เกิดการลด การปล่อยก๊าซเรือนกระจก
-
1.3
ของเสีย ต้องบริหารจัดการ การรักษา การปล่อย หรือการกำจัดของเสียที่เกิด จากการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับกฎหมาย กฎระเบียบที่ใช้บังคับ โดยมีการตรวจสอบ และมีมาตรการควบคุมที่สอดคล้องกับ กลุ่มทีทีดับลิว
-
1.4
สารเคมีและวัตถุอันตราย คู่ค้าต้องดำเนินการจัดการสารเคมีและวัตถุอันตราย ด้วยความปลอดภัย รวมถึงมีการกำจัดอย่างถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
-
-
2
ด้านสังคม
-
2.1
อาชีวอนามัยและความปลอดภัย คู่ค้าต้องจัดให้มีนโยบายด้านสุขภาพ อาชีวอนามัยและความปลอดภัย เพื่อสนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ รวมถึงจัดให้มีเครื่องป้องกันส่วนบุคคลให้กับลูกจ้างอย่างเพียงพอและเหมาะสม รวมทั้งเปิดโอกาสให้ลูกจ้างสามารถนำเสนอประเด็นปัญหาด้านความปลอดภัยในการทำงานโดยไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อระเบียบวินัย
-
2.2
การป้องกัน เตรียมตัว และตอบสนองสภาวะฉุกเฉิน คู่ค้าต้องมีการคาดคะเน บ่งชี้และประเมินสถานการณ์ และเหตุการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงมีการวางแผน และมีระเบียบวิธีปฏิบัติที่รองรับการตอบสนองสภาวะฉุกเฉิน เพื่อช่วยลดผลกระทบจากสภาวการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว
-
2.3
การปฏิบัติอย่างเท่าเทียม บริษัทฯ ไม่สนับสนุนให้เกิดความไม่เท่าเทียมในการจ้างงาน หรือการเลือกปฏิบัติอันมาจากการแข่งขัน การกีดกันแบ่งแยกเชื้อชาติ สัญชาติ อายุ ศาสนา เพศ รสนิยมทางเพศหรือความพิการ หรือการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมกันในรูปแบบใดๆ
-
2.4
แรงงานและแรงงานเด็ก คู่ค้าต้องไม่จ้างแรงงานที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์ (รวมถึงการบังคับใช้แรงงาน) ตามที่กฎระเบียบของประเทศกำหนด โดยแรงงานจะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 15 ปี รวมถึงจะต้องไม่จ้างแรงงานที่เกิดจากการบังคับหรือไม่เต็มใจในรูปแบบใดๆ
-
2.5
เสรีภาพในการรวมเป็นสมาคม สหภาพ สหพันธ์ คู่ค้าต้องยอมรับในสิทธิ และเสรีภาพของลูกจ้างของตนที่พึงมีในการเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมสมาคม สหภาพ สหพันธ์ รวมถึงการเจรจาต่อรองต่างๆ
-
2.6
เงื่อนไขการทำงาน คู่ค้าต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายท้องถิ่นที่บังคับใช้และกฎระเบียบที่เกี่ยวกับสภาพการทำงาน รวมถึงชั่วโมงการทำงาน ค่าตอบแทน และการเลิกจ้าง
-
2.7
การมีส่วนร่วมต่อชุมชน คู่ค้าต้องสร้างและรักษาการมีส่วนร่วมกับซุมชนเพื่อรักษาประสิทธิภาพในการสร้างและกระชับความสัมพันธ์ในพื้นที่ดำเนินงาน
-
2.8
ผลกระทบต่อชุมชน คู่ค้าต้องมีการประเมินอย่างเป็นระบบ มีเอกสาร และควบคุมผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมที่จะอาจจะเกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน ต่อชุมชนโดยรอบ
-
-
3
ด้านจริยธรรมทางธุรกิจ
-
3.1
การปฏิบัติตามข้อบังคับ คู่ค้าต้องดำเนินธุรกิจ โดยปฏิบัติตามกฎหมายระดับชาติและท้องถิ่นรวมถึงกฎระเบียบที่บังคับใช้กับการดำเนินธุรกิจ และใบอนุญาตที่จำเป็นในสถานที่นั้นๆ
-
3.2
คอรัปชั่น และการติดสินบน บริษัทฯ มีนโยบายที่แสดงเจตนารมย์ในการปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัดในเรื่อง นโยบายการป้องกันและต่อต่านการทุจริต การให้หรือรับสินบน หากคู่ค้ารายใดมีส่วนเกี่ยวข้องในการจ่ายหรือรับสินบนจะถูกยกเลิกสัญญา โดยบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นต่อคู่ค้าอันเนื่องมาจาก การยกเลิกสัญญาดังกล่าวและคู่ค้าอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
-
3.3
รางวัล ของขวัญ คู่ค้าต้องรับทราบว่าพนักงานบริษัทฯ จะไม่มีการให้หรือรับของขวัญ รางวัล ของที่ระลึกอันจะส่งผลต่อการตัดสินใจในการดำเนินงาน หรือก่อให้เกิดการเอื้อประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรม เว้นเสียแต่ว่าเป็นของขวัญที่ให้ตามธรรมเนียมปฏิบัติทางธุรกิจ
-
3.4
ผลประโยชน์ทับช้อน คู่ค้าต้องแจ้งให้ทีทีดับบลิว ทราบหากพบว่ามีการดำเนินการใดๆ ที่เป็นประโยชน์ทับซ้อนระหว่างฝ่ายจัดการ พนักงานและบุคลากรในบริษัทฯ กับ คู่ค้า
-
3.5
การรักษาความลับทางการค้า คู่ค้าต้องมีกระบวนการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทฯ
-
3.6
การเปิดเผยข้อมูล คู่ค้าต้องมีการเก็บข้อมูลอย่างถูกต้องและเปิดเผยข้อมูลทั้งในด้านธุรกิจสิ่งแวดล้อม กิจกรรมสังคม โครงสร้าง รวมถึงผลประกอบการโดยมีความสอดคล้องตามกฎหมายข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง
-
นโยบายด้านภาษี
บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) ตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการเป็นผู้เสียภาษีที่ดี ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เป็นไปด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม ตลอดจนยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มตามหลักการกำกับกิจการที่ดีและจรรยาบรรณทางธุรกิจ อีกทั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ซึ่งมุ่งเน้นให้ธุรกิจมีการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้นำหลักการด้านภาษีมาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
การวางแผนและแนวทางปฏิบัติด้านภาษีอากร
- จัดให้มีการบริหารจัดการด้านภาษีอากร และการเสียภาษีตามแนวทางที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนมีการปฏิบัติทางด้านภาษีเพื่อให้บริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เหมาะสม ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้น
- จัดให้มีการนำส่งภาษี หรือขอคืนภาษีอย่างถูกต้องเหมาะสม ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
การประสานงานด้านภาษีอากร
- ประสานงาน ติดต่อกับหน่วยงานภาษีของรัฐบาล โดยให้ข้อมูลทางภาษีที่ถูกต้องตรงตามข้อเท็จจริงในการดำเนินธุรกิจ
- มีการให้ความรู้ คำปรึกษากับหน่วยงานต่างๆ และพนักงานภายในบริษัทฯ เกี่ยวกับภาษีอากร เพื่อให้ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายภาษีอากร
ที่ปรึกษาด้านภาษีอากร
จัดให้มีที่ปรึกษาด้านภาษีอากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และให้คำปรึกษาเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและถูกต้องตามแนวทางที่กฎหมายกำหนด
นโยบายการไม่เลือกปฏิบัติ และการต่อต้านการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
วัตถุประสงค์
บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) มุ่งมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการผูกขาด และการแข่งขันทางการค้า ซึ่งปัจจุบันกฎหมายเหล่านี้ใช้บังคับในเกือบทุกประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองให้เกิดการแข่งขันอย่างจริงจัง เปิดเผยและยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติให้เกิดข้อจำกัดทางการค้าที่ไม่เหมาะสม หรือการดำเนินการที่ขัดต่อการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และบริษัทย่อยจะต้องสามารถแข่งขันได้อย่างมีศักยภาพและอย่างยุติธรรม โดยจะต้องไม่มีการปิดกั้นโอกาสในการแข่งขันหรือการกระทำข้อตกลงใด ๆ ร่วมกับคู่แข่ง เช่น ทำข้อตกลงระหว่างคู่แข่งในเรื่องการกำหนดราคา เป็นต้น
แนวปฏิบัติ:
- ห้ามมีส่วนในการทำความตกลงร่วมกันกำหนดราคาระหว่างบริษัทฯ และคู่แข่ง
- ห้ามทำข้อตกลงกับคู่แข่งที่เป็นการจำกัดการแข่งขันอย่างไม่เหมาะสม เช่น การเจรจาหารือเรื่องต้นทุนหรือการกำหนดราคากับคู่แข่ง
- ระมัดระวังการร่วมงานวิจัยการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือร่วมกิจกรรมใดๆ กับคู่แข่ง หากประสงค์จะใช้ข้อมูลใด ๆ ให้เลือกใช้จากแหล่งข้อมูลสาธารณะเป็นหลักก่อน
- ห้ามทำข้อตกลงใดอันเป็นการจำกัดโอกาสทางธุรกิจโดยไม่เป็นธรรมกับคู่ค้า ตัวแทนจำหน่ายหรือบุคคลอื่น ๆ
- ในกรณีที่บริษัทฯ จะเข้าไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศโดยการร่วมลงทุน ควบรวมกิจการ หรือเข้าซื้อกิจการของผู้ประกอบการรายอื่น หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องตรวจสอบข้อกฎหมายและข้อกำหนดต่าง ๆ เกี่ยวกับการป้องกันการไม่เลือกปฏิบัติหรือการแข่งขันทางการค้าของประเทศนั้น ๆ
- ไม่เลือกปฎิบัติในการดำเนินการใด ๆ ของบริษัทฯ ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการนั้น ๆ
นโยบายการลงทุน
เพื่อให้การลงทุนของบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) บรรลุตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดและสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสม อันจะส่งผลให้บริษัทฯ เติบโตอย่างมั่นคง ต่อเนื่อง และยั่งยืน คณะกรรมการบริษัทจึงได้กำหนดนโยบายการลงทุนดังนี้
- การลงทุนต้องสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของบริษัทฯ ที่กำหนดไว้ ณ ช่วงเวลาดังกล่าว
- การลงทุนต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง และคณะกรรมการบริหารและได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการบริษัท ในกรณีที่การลงทุนเป็นรายการเกี่ยวโยงกัน หรือเป็นรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ รายการดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบด้วย และบริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน
- ในกรณีที่เป็นการลงทุนร่วมในโครงการเริ่มใหม่โดยมีผู้ร่วมทุนตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป บริษัทฯ ต้องลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนจดทะเบียนของบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามโครงการเริ่มใหม่ หรือไม่น้อยกว่าสัดส่วนที่มีสิทธิในการออกเสียงอนุมัติในเรื่องที่มีสาระสำคัญ ทั้งนี้ บริษัทฯ ต้องมีผู้แทนเป็นกรรมการในบริษัทนั้นๆ ด้วย
- การลงทุนต้องได้รับการประเมินความเสี่ยงในทุกด้านอย่างรอบคอบ และความเสี่ยงดังกล่าวจะต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
- ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุน (EIRR) ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 15
- ในกรณีที่เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุน (EIRR) อาจน้อยกว่าร้อยละ 15 ได้ ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวต้องมีเงื่อนไขพิเศษรองรับ อาทิ การมีประกันรายได้ขั้นต่ำ การชดเชยค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงหรือมิได้กำหนดไว้ในสัญญา และ/หรือการประกันผลตอบแทนขั้นต่ำที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุน ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนดังกล่าวต้องไม่น้อยกว่าผลรวมของผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง (risk free rate) และต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ (cost of borrowing) ณ เวลาที่ลงทุน
นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท ทีทีดับบลิว จํากัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ตระหนักและให้ความสําคัญเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อให้เป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่จะแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต รวมถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ กำหนดไว้ (เรียกโดยรวมว่า“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัว (“นโยบายฯ”) นี้ขึ้นเพื่อให้ทราบถึงแนวทางของบริษัทฯ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล และเหตุผลในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และสิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ขอบเขตของนโยบายฯ
นโยบายฯ นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้บังคับสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมโดยบริษัทฯ ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ อาจเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย วิธีที่บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลให้ การจัดเก็บรวบรวม และการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล วิธีที่เจ้าของข้อมูลสามารถเข้าถึงและขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้จัดเก็บไว้ และวิธีการหรือช่องทางที่เจ้าของข้อมูลอาจร้องเรียนหากเห็นว่าบริษัทฯ กระทําการขัดต่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ
คำจำกัดความ
บริษัทฯ หมายถึง บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ซึ่งเรียกโดยรวมว่ากลุ่มบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน)
บริษัทย่อย หมายถึง บริษัทในกลุ่มของบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) ได้แก่ บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด, บริษัท ไทยวอเตอร์ โอเปอเรชั่นส์ จำกัด รวมถึงที่จะลดหรือเพิ่มเติมในภายหน้า
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจทำให้เจ้าของข้อมูลถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่ชอบธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอํานาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดําเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคําสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่ง ดําเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
1. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามสมควรสำหรับการดำเนินกิจกรรมของบริษัทฯ โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม อาจขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจกรรมที่มีกับบริษัทฯ รวมถึงสถานที่และวิธีการที่เก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้
-
1.1
พนักงานและผู้สมัครงาน
- ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หรือข้อมูลติดต่ออื่น ๆ เช่น อีเมลหรือทางแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ รายละเอียดของสถานที่ติดต่ออื่น เพศ อายุ สัญชาติ สถานภาพการสมรส วันเดือนปีเกิด รูปถ่าย เลขที่หนังสือเดินทาง เลขที่บัตรประจําตัวประชาชน ข้อมูลระบุทรัพย์สิน เช่น ทะเบียนรถยนต์ รายละเอียดบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่อยู่ในการดูแล ข้อมูลการเดินทาง เช่น การขอวีซ่า กําหนดการเดินทาง ข้อมูลเที่ยวบิน และยังรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ตามที่กำหนดไว้ในคำจำกัดความ
- ข้อมูลเกี่ยวกับคุณวุฒิและประวัติการทํางาน เช่น ประกาศนียบัตรจากโรงเรียน/ มหาวิทยาลัย ประวัติการเรียน การทดสอบทางวิชาการหรือภาษา หนังสือรับรองและหนังสืออ้างอิง
- รายละเอียดการทํางานพื้นฐาน เช่น รายละเอียดการติดต่อสถานที่ทํางานเดิม หมายเลขพนักงานตําแหน่งงาน ขอบเขตและหน้าที่รับผิดชอบของงาน สายการบังคับบัญชา วันและเวลาการทํางานรวมถึงระเบียบและ เงื่อนไขของการจ้างงาน
- ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงาน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการเกณฑ์ทหาร ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน และหลักฐานอ้างอิงต่าง ๆ
- ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าจ้าง เช่น รายละเอียดการจ่ายเงินเดือนและผลประโยชน์อื่น ประกันสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับการเกษียณอายุบํานาญ กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ ข้อมูลทางภาษี และข้อมูลของผู้รับผลประโยชน์
- ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการทํางาน รวมถึงการประเมินผลการทํางาน ความเห็นของผู้บังคับบัญชาต่อการปฏิบัติงาน ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับการทํางานหรือการร้องทุกข์ การลงโทษทางวินัย ประวัติการลาหรือขาดงาน ประวัติข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจร่างกายและสุขภาพ หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทํางานในสถานประกอบการและความปลอดภัย
- ข้อมูลภาพและ/หรือเสียง ภาพเคลื่อนไหว ซึ่งบันทึกไว้เพื่อการดําเนินกิจกรรมของบริษัท หรือเพื่อการรักษาความปลอดภัยของบริษัท หรือเพื่อการกระบวนการทางวินัย เช่น บันทึกเป็นหลักฐานการสอบสวน
-
1.2
บุคคลภายนอก
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เช่น ชื่อ-นามสกุล ข้อมูลตามบัตรประจําตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง เลขที่บัตรประจำตัวของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่สังกัด ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หรือข้อมูลติดต่ออื่น ๆ เช่น อีเมล หรือทางแอพพลิเคชั่น ที่อยู่เพื่อจัดส่งไปรษณีย์ ข้อมูลยานพาหนะเมื่อมาติดต่อ รวมถึงข้อมูลติดต่ออื่น ๆ ที่จำเป็น
- ข้อมูลภาพและ/หรือเสียง ภาพเคลื่อนไหว ซึ่งบันทึกไว้เพื่อการดําเนินกิจกรรมของบริษัท หรือเพื่อการรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ
- ข้อมูลสุขภาพ ประวัติอาชญากรรมของพนักงานหรือผู้แทนที่ส่งมาให้บริการแก่บริษัทฯ รายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาและขอบเขตการให้บริการ
- ข้อมูลการชําระเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร รายละเอียดบัญชีธนาคาร การเรียกเก็บเงิน ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต เลขที่บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ชื่อผู้ถือบัตร (ถ้ามี)
- กรณีที่มีการใช้เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัทฯ ที่มีไว้สําหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ใดๆ บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิค เช่น ที่อยู่ไอพี คุกกี้ และสําหรับแอพพลิเคชั่น บริษัทฯ อาจเก็บ รวบรวมข้อมูลสถานที่และอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่เจ้าของข้อมูลใช้
-
1.3
ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders)
- ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หรือรายละเอียดของสถานที่ติดต่ออื่น เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลติดต่ออื่น ๆ เช่น อีเมล หรือทางแอพพลิเคชั่น ข้อมูลตามบัตรประจําตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง เลขที่บัตรประจำตัวของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่สังกัด รูปถ่าย ข้อมูลการเดินทางที่มีข้อมูลส่วนบุคคล รูปภาพ ภาพและ/หรือเสียง และยังรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามคำจำกัดความ
- ข้อมูลภาพและ/หรือเสียง ภาพเคลื่อนไหว ซึ่งบันทึกไว้เพื่อการดําเนินกิจกรรมของบริษัท หรือเพื่อการรักษาความปลอดภัยของบริษัท
- ข้อมูลฐานะทางการเงิน เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน รายได้ ประเทศแหล่งที่มาของรายได้ประจำ และรายได้อื่น บัญชีธนาคาร รวมถึงข้อมูลที่ระบุทรัพย์สิน เช่น ทะเบียนรถยนต์ การถือครองหลักทรัพย์ในกิจการที่อาจเกี่ยวโยงกับบริษัท และการลงทุนอื่น ๆ
- ข้อมูลทางการศึกษา คุณวุฒิและประวัติการทํางาน ประกาศนียบัตร อาชีพหลักและอาชีพเสริม รายละเอียดการทํางาน ชื่อ สถานที่ทํางาน ประเภทธุรกิจของสถานที่ทํางาน ตําแหน่ง ฝ่าย ลักษณะการทํางาน ความรับผิดชอบ ชื่อผู้ติดต่อหรือบุคคลอ้างอิงพร้อมวิธีการติดต่อ เช่น เบอร์โทรศัพท์ หรือผ่านทางแอพพลิเคชั่น
- ประวัติการกระทําผิดกฎหมาย ประวัติอาชญากรรม เช่น การฟอกเงิน ประวัติการถูกยับยั้งการทําธุรกรรมหรือถูกปฏิเสธการทําธุรกรรมจากสถาบันการเงิน ข้อมูลบุคคลล้มละลาย ข้อมูลนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อมูลใด ๆ เพื่อประกอบการทํา KYC ข้อมูลอาชีพ หรือประเภทธุรกิจที่มีความเสี่ยงตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ข้อมูลการกระทําความผิดที่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานกํากับดูแล
- ข้อมูลในการประเมินความเหมาะสมในการลงทุน
- ข้อมูลการซื้อขายและการทําธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
- ข้อมูลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) เช่น ข้อมูลคู่สมรส บุตร บิดามารดาบุคคลที่ติดต่อในกรณีเร่งด่วน หรือผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ ผู้จัดการมรดก ผู้รับมอบอํานาจ ผู้รับมอบฉันทะ ตัวแทน ผู้รับผลประโยชน์ ผู้ค้ำประกัน
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม โดยจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบหรือขอความยินยอมก่อนเป็นกรณีไป ข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมอาจถือเป็น “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” บริษัทฯ ประสงค์ที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเฉพาะในกรณีที่เจ้าของข้อมูลให้ความยินยอมไว้โดยชัดแจ้งและเท่าที่จําเป็นต้องใช้ตามสมควรในการดําเนินกิจการของบริษัทฯ เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดเป็นข้อยกเว้นไว้
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ในเอกสารมีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวรวมอยู่ด้วยและไม่มีความจำเป็นที่บริษัทฯ จะต้องเก็บรวบรวม เช่น ข้อมูลศาสนา บริษัทฯ จะทำการขีดฆ่าหรือปิดบังข้อมูลดังกล่าว
2. ช่องทางที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามเอกสารที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูล รวมถึงเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือแอพพลิเคชั่นใดๆ สําหรับอุปกรณ์สื่อสารหรือช่องทางใดๆที่บริษัทฯ จัดให้มีขึ้น
โดยทั่วไป บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง เช่น ใบสมัครงาน (Application Form) หรือเอกสารใด ๆ สำหรับพนักงานหรือผู้บริหารของบริษัทฯ เอกสารหรือระบบการลงทะเบียนเป็นผู้ให้บริการหรือผู้ขายสินค้าให้แก่บริษัทฯ ช่องทางการกรอกข้อมูลผ่านระบบของบริษัทฯ หรือเว็บไซต์ของบริษัทฯ รวมถึงการแจ้งต่อบริษัทฯ ไม่ว่าด้วยใด ๆ ทางวาจา เช่น ทางโทรศัพท์หรือ Video / Virtual conference ช่องทางการรับส่งข้อมูลผ่านทางอีเมล หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ รวมถึงได้รับข้อมูลผ่าน แอพพลิเคชั่นสําหรับอุปกรณ์สื่อสารที่บริษัทฯ ได้จัดให้มีขึ้น
ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นนอกเหนือจากที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ไว้ บริษัทฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น และขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยไม่ชักช้าภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เก็บรวบรวม เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
การเก็บข้อมูลในกรณีที่เจ้าของข้อมูลเป็นผู้เยาว์ หรือคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ ก่อนเก็บข้อมูลจากบุคคลดังกล่าว
3. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
-
3.1
พนักงานและผู้สมัครงาน
- เพื่อการบริหารและจัดการในการประกอบกิจการของบริษัทฯ
- เพื่อการจัดการด้านทรัพยากรบุคคล เช่น การจ้างงาน การจ่ายค่าจ้างและสวัสดิการพนักงาน การวางแผนและการจัดการฝึกอบรม การประเมินผลการปฏิบัติงาน การเลื่อนขั้น การย้ายงาน การมอบหมายให้พนักงานไปปฏิบัติงานสถานที่อื่น หรือบริษัทย่อยในกลุ่มของบริษัท การวางแผนกําลังคน เป็นต้น
- เพื่อประโยชน์ในการยืนยันหรือระบุตัวตนของพนักงานเมื่อเข้าใช้งานระบบเทคโนโลยีของบริษัทฯ รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลการใช้งาน
- เพื่อประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น เพื่อการติดต่อสื่อสาร หรือทําการวิเคราะห์เชิงสถิติ เพื่อจัดการระบบสารสนเทศ ทดสอบ พัฒนา และคงให้มีระบบและมาตรการควบคุมเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
- เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย การใช้สิทธิทางศาล การปฏิบัติตามคําสั่งศาล หรือเพื่อให้เป็นไปตามข้อกําหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือ นโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกําหนดขึ้นโดยหน่วยงานกํากับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานของรัฐที่กํากับดูแลธุรกิจของบริษัทฯ
- เพื่อให้การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสอดคล้องกับกฎหมาย หลักเกณฑ์และระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อบังคับของบริษัทฯ และกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อการทําแบบสํารวจทางสถิติหรือการตอบแบบฟอร์มคําร้องใด ๆ ของหน่วยงานรัฐที่กำกับดูแลธุรกิจของบริษัทฯ
- เพื่อการตรวจสอบข้อร้องเรียนและประเด็นของการประพฤติตัวไม่เหมาะสม หรือเป็นส่วนหนึ่งของ กระบวนการทางวินัย
- เพื่อใช้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ ทั้งภายในและภายนอก
- เพื่อจัดทําบันทึกข้อมูลลูกจ้าง การทําประกันและแผนประกัน เพื่อคุ้มครองอุบัติเหตุและสุขภาพของพนักงาน
- เพื่อการตรวจสอบการทำธุรกรรมกับบริษัทฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการขัดกันของผลประโยชน์ หรือหลีกเลี่ยงแนวโน้มที่จะเกิดการขัดกันของผลประโยชน์ การปฏิบัติตามข้อกําหนด ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย การให้ความช่วยเหลือตามวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทฯ หรือในนามของบริษัทฯ หรือโดยเจ้าหน้าที่ ตํารวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ และการดําเนินการตามหน้าที่ในการรายงาน และข้อกําหนดต่างๆ ตามที่กฎหมายกําหนด
- เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชําระเงิน การเรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชีและการสอบบัญชีของบริษัทฯ หรือการติดตามทวงหนี้ในกรณีที่พนักงานมีหนี้ค้างชำระต่อบริษัทฯ
- เพื่อการตรวจสอบ ป้องกัน หรือการดําเนินการเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง กรณีมีเหตุอันควรสงสัย หรือสมควรเชื่อได้ว่าอาจมีการฉ้อโกงหลอกลวง การฟอกเงินหรือการกระทำอื่น ๆ ที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรืออาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
- เพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่บริษัทฯ
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กร และการทําธุรกรรมขององค์กร ซึ่งเป็นผลทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเปิดเผยหรือถูกโอน โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขายธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายกิจการ
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัทฯ (ทั้งการตรวจสอบภายในและ ภายนอก)
-
3.2
บุคคลภายนอก
- เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร เพื่อการทําความรู้จัก ยืนยันตัวตน ยืนยันความถูกต้องของข้อมูลใด ๆ ที่บริษัทฯ ได้รับ
- เพื่อเสนอขาย เสนอให้บริการ จัดให้ บริหารจัดการ ดําเนินการ หรือเพื่อการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ และจัดการเกี่ยวกับสินค้าและบริการ เพื่อใช้ในการติดต่อ เพื่อตอบรับคําสั่งซื้อ และ/หรือบริการการจัดส่งสินค้าตามคําสั่งซื้อ หรือส่งมอบการให้บริการ
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเพื่อการเข้าทําสัญญากับบริษัทฯ ตามขั้นตอน กระบวนการจัดการทําให้แล้วเสร็จ เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงใด ๆ ที่อาจมีต่อการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ การเก็บเงินค้างชําระ และการปรับปรุงแก้ไข ยกเลิกสัญญา การติดตามชำระหนี้ การฟ้องร้องคดีอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
- เพื่อการให้บริการและ/หรือการขายสินค้าของบริษัทในฐานะลูกค้า เพื่อการให้หรือรับบริการรับประกันสินค้า ติดตั้ง ซ่อมแซมสินค้า ให้คําแนะนําหรือคําปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของบริษัทฯ ให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า เพื่อให้บริการสนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือในการจัดการบริการและ/หรือสินค้า
- เพื่อการติดต่อสื่อสาร รวมถึงการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการและข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับสินค้า หรือบริการของบริษัทฯ การให้การสนับสนุนทางเทคนิคเกี่ยวกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของบริษัทฯ หรือการสื่อสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่จะมีขึ้น
- เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชําระเงิน การจัดทําใบแจ้งหนี้ การเรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน การยืนยันคําสั่งซื้อ รวมถึงให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และการจัดการทางบัญชี และการสอบบัญชีของบริษัทฯ
- เพื่อการตรวจสอบ ป้องกัน หรือการดําเนินการใดๆ ที่อาจเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยหรือควรเชื่อได้ว่าอาจมีการฉ้อโกงหลอกลวง การฟอกเงิน หรือการกระทำอื่น ๆ ที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรืออาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
- เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอื่นที่บริษัทฯ เห็นว่าผู้แทนจําหน่าย ซัพพลายเออร์ หรือผู้แทน อาจสนใจ (ซึ่งผู้แทนจําหน่าย ซัพพลายเออร์ หรือผู้แทนสามารถแจ้งบริษัทฯ ได้ทุกเมื่อหากไม่ต้องการได้รับข้อมูลประเภทนี้)
- เพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่บริษัทฯ
- เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น เพื่อใช้ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ การส่งเสริมการขาย หรือการติดต่อสื่อสารอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงสินค้าหรือบริการ เพื่อจัดการฝึกอบรม เพื่อจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการตลาด หรือทําการวิเคราะห์เชิงสถิติหรือการวิเคราะห์ตลาด และทําการสํารวจผู้บริโภค
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กร และการทําธุรกรรมขององค์กร ซึ่งเป็นผลทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเปิดเผยหรือถูกโอน โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขายธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายธุรกิจขององค์กร
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัทฯ (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
- เพื่อการดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดภายใต้นโยบายของบริษัทที่ยึดถือปฏิบัติ
- เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย การใช้สิทธิทางศาล การปฏิบัติตามคําสั่งศาล หรือเพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือ นโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกําหนดขึ้นโดยหน่วยงานกํากับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานของรัฐที่กํากับดูแลธุรกิจของบริษัทฯ
- เพื่อการให้ความช่วยเหลือ เพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทฯ หรือในนามของบริษัทฯ หรือโดยเจ้าหน้าที่ตํารวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ และการดําเนินการตามหน้าที่ในการรายงาน และข้อกําหนดต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกําหนด
-
3.3
ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders)
- เพื่อการบริหารและจัดการในการประกอบกิจการของบริษัทฯ
- เพื่อประโยชน์ในการยืนยันหรือระบุตัวตนของผู้ถือหุ้น ผู้ถือห้นกู้ คณะกรรมการบริษัท รวมถึงบุคคลที่ เกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับกลุ่มคนดังกล่าว เช่น คู่สมรส บุตร บิดามารดา บุคคลที่ติดต่อในกรณี เร่งด่วน หรือผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ ผู้จัดการมรดก ผู้รับมอบอํานาจ ผู้รับมอบฉันทะ ตัวแทน ผู้รับผลประโยชน์ ผู้ค้ำประกัน
- เพื่อประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจ หรือเพื่อช่วยบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจ การบริหารขององค์กร เช่น การสรรหา การคัดเลือก การแต่งตั้งบุคคลเพื่อเป็นกรรมการบริษัทฯ หรือเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทําวาระการประชุมเพื่อเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและ/หรือคณะกรรมการชุดย่อย หรือการประชุมหรือการจัดการภายในของบริษัทฯ การจัดทำบันทึกรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น การประชาสัมพันธ์ รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ
- เพื่อการซื้อขาย การทําธุรกรรมของผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงการประเมินความเสี่ยงในการลงทุนตามกระบวนการกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับ
- เพื่อการใช้สิทธิหรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกําหนด เช่น การเรียกประชุมผู้ถือหุ้น การส่งหนังสือเชิญประชุม การจ่ายเงินปันผล หรือเพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย การใช้สิทธิทางศาล หรือตามคําสั่งศาล หรือดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือ นโยบายที่ใช้บังคับ รวมถึงหลักการการกํากับดูแลกิจการที่ดีซึ่งกําหนดขึ้นโดยรัฐ หรือโดยหน่วยงานที่กํากับดูแลธุรกิจของบริษัทฯ
- เพื่อให้การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสอดคล้องกับกฎหมาย หลักเกณฑ์และระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อบังคับของบริษัทฯ และกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อการปฏิบัติตามข้อกําหนดการจ่ายค่าจ้าง ค่าตอบแทน ค่าชดเชย ผลประโยชน์ แผนค่าตอบแทน ข้อเสนอในอนาคต รางวัล บัญชีค่าตอบแทน
- เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการงานในการจ้างตามสัญญา
- เพื่อการติดต่อสื่อสารภายใน การแจ้งการนัดหมายแก่บุคคลทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นติดต่อ ผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ อีเมล หรือไปรษณีย์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เช่นแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่สามารถใช้ในการติดต่อได้ หรือผ่านช่องทางใด ๆ เพื่อเป็นการสื่อสารให้ผู้มีส่วนได้เสียรับทราบ
- เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชําระเงิน การเรียกเก็บเงิน หรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี และการสอบบัญชีของบริษัท หรือการติดตามทวงหนี้ กรณีที่ผู้มีส่วนได้เสียมีหนี้ค้างชำระแก่บริษัท
- เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่กฎหมาย เพื่อการให้ความช่วยเหลือ เพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท หรือโดยเจ้าหน้าที่ตํารวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ และการดําเนินการตามหน้าที่ในการรายงาน และข้อกําหนดต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกําหนด
- เพื่อการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมด้านการฟอกเงิน เช่น การถูกยับยั้งหรือการปฏิเสธการทําธุรกรรมการตรวจสอบประวัติการฟอกเงิน ข้อมูลบุคคลล้มละลาย ข้อมูลนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลใด ๆ เพื่อประกอบการทํา KYC ข้อมูลอาชีพและ/หรือประเภทธุรกิจที่มีความเสี่ยงตามกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ข้อมูลการกระทําความผิดที่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานกํากับดูแล รวมถึงเพื่อป้องกันหรือการดําเนินการเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง กรณีมีเหตุอันควรสงสัยหรือมีเหตุอันควรเชื่อว่าอาจมีการฉ้อโกงหลอกลวง หรืออาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ หรือการกระทำอื่น ๆ ที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรืออาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
- เพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่บริษัทฯ
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กร และการทําธุรกรรมขององค์กร ซึ่งเป็นผลทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนหรือเปิดเผย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขายธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายธุรกิจขององค์กร
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
ทั้งนี้ หากบริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสําหรับการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด นอกเหนือจากที่ได้แจ้งไว้ในนโยบายฯ นี้ บริษัทฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบ หรือขอความยินยอมก่อน
4. การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทฯ ตลอดจนหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น และจำกัดเพียงเพื่อวัตถุประสงค์เดิมที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูล หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องได้กำหนดไว้
ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ บุคคลหรือหน่วยงานดังต่อไปนี้
- บริษัทในกลุ่ม
- ผู้ถือหุ้น รวมถึงผู้บริหารของผู้ถือหุ้น ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล บริษัทในกลุ่มในเครือของ ผู้ถือหุ้น
- ผู้จัดงาน ผู้ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน และผู้สนับสนุนงานกิจกรรมหรือนิทรรศการ
- โรงแรมหรือผู้ให้บริการสถานที่จัดงานอื่น ๆ และผู้แทนของบุคคลดังกล่าว ที่เกี่ยวข้องกับงานกิจกรรม หรือนิทรรศการ
- ผู้รับจ้างช่วง ผู้ให้บริการ และซัพพลายเออร์และตัวแทนลักษณะอื่น ๆ ที่ดําเนินการในนามของบริษัทฯ หรือถูกว่าจ้างโดยบริษัทฯ การบริการด้านการธนาคารหรือการเงิน บริการพื้นที่บนอินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชั่น ระบบคลาวด์หรือเครือข่ายข้อมูล บริการลงทะเบียนเข้าร่วมงานกิจกรรม บริการการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนอกประเทศ บริการรักษาความปลอดภัย บริการสอบบัญชี บริการด้านกฎหมาย บริการประกันภัย บริการวิจัยตลาด และบริการจัดการอีเมลหรือไปรษณีย์ และผู้แทนและตัวแทนที่ขายหรือประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการในนามของบริษัทฯ รวมถึงบริการอื่น เพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท
- บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จํากัด ในฐานะนายทะเบียนข้อมูล
- ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ทำธุรกรรมกับบริษัท
- บุคคลใดก็ตามที่ให้ความยินยอมในการรับข้อมูลส่วนบุคคล
- ผู้ที่ซื้อหรือขาย หรือจะซื้อหรือจะขาย หากบริษัทฯ ขายธุรกิจหรือกิจการของบริษัทฯ บางส่วน การควบรวมกิจการ หรือเข้าซื้อธุรกิจหรือบริษัทอื่น
- บุคคลใดหรือหน่วยงานของรัฐตามกฎหมาย ตามคําสั่งศาล หรือหน่วยงานอื่นใดที่มีอํานาจตามกฏหมาย
- หน่วยงานกํากับดูแล หรือหน่วยงานของรัฐ หรือองค์การเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ในการดูแล การประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ตามกฎหมาย ซึ่งกําหนดให้บริษัทฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้ทราบ
บริษัทฯ อาจว่าจ้างบุคคลภายนอกให้ดําเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาข้างต้นไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จะควบคุมและวางมาตรการเพื่อให้บุคคลภายนอกนั้นทําการเก็บรักษา หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดในนโยบายฯ นี้ ตลอดจนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
5. การเก็บรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและระยะเวลาการเก็บรักษา
เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ได้มีมาตรการ ดังนี้
- กําหนดสิทธิในการเข้าถึง และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการแสดงหรือยืนยันตัวบุคคล ผู้เข้าถึง และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตามแนวนโยบายสารสนเทศของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด
- บริษัทฯ ได้กําหนดวิธีการเข้ารหัสข้อมูลที่ปลอดภัยสําหรับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทําลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
- ในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอกทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการนําข้อมูลส่วนบุคคลไปประมวลผลบนฐานข้อมูลในระบบอื่นใด ผู้รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่าหรือดีกว่ามาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฯ นี้ และในกรณีที่ผู้รับโอนข้อมูลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะแจ้งและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนการโอนข้อมูล เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องได้กำหนดไว้
- กรณีที่บริษัทฯ ได้ใช้บริการหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องกับดําเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน บริษัทฯ จะกําหนดให้หน่วยงานที่ถูกว่าจ้างในการดําเนินการดังกล่าวให้จัดเก็บข้อมูลเป็นความลับเพื่อความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและมิให้มีการนําข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปใช้นอกเหนือจากการดําเนินงานของทางบริษัทฯ เท่านั้น
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่จําเป็นต้องใช้ข้อมูลและจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ต่อไปเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่การสิ้นสุดการทำธุรกรรมกับบริษัทฯ หรือตลอดไปสำหรับภาพที่จัดพิมพ์หรือสื่อที่จัดทำแล้ว อย่างไรก็ตามอาจมีเหตุจําเป็นที่บริษัทฯ จะต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนานกว่าที่กำหนด เช่น เมื่อเกิดข้อพิพาท หรือการดำเนินคดีในศาล หรือกรณีอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด บริษัทฯ จะทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
6. เว็บไซต์ของบริษัทฯ
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ ดังต่อไปนี้
- เมื่อมีการสมัครงานผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ บริษัทฯ ขอทราบข้อมูลที่จำเป็นต่อการสมัครงาน เช่น ประวัติส่วนตัว ข้อมูลติดต่อ ข้อมูลในเรซูเม่ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่ จำเป็นต่อการสมัครงาน เป็นต้น
- ข้อมูลอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ เช่น ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP ของคอมพิวเตอร์ รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์ ข้อมูลเครือข่ายมือถือ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประเภทของเบราว์เซอร์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกเว็บไซต์ (Log File) ข้อมูลเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานเข้าถึงก่อนและหลัง (Referring Website) ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้เว็บไซต์ พฤติกรรมการใช้งาน (Customer Behavior) สถิติการเข้าเว็บไซต์ เวลาที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ (Access Time) ข้อมูลการค้นหาการใช้ฟังก์ชันต่างๆ ในเว็บไซต์
- บริษัทฯ ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “คุกกี้” (Cookie) มาจัดเก็บข้อมูล และนำเสนอข้อมูลที่ตรงกับความต้องการ โดยคุกกี้ก็จะทำให้เว็บไซต์ของบริษัทฯ สามารถบันทึกหรือจดจำข้อมูลของผุ้ใช้งานไว้จนกว่าจะออกจากโปรแกรมค้นผ่านเว็บไซต์ หรือจนกว่าจะทำการลบคุกกี้นั้นเสีย หรือไม่อนุญาตให้คุกกี้นั้นทำงานอีกต่อไป ทั้งนี้บริษัทฯ จะนำข้อมูลที่คุกกี้ได้บันทึกหรือเก็บรวบรวมไว้ ไปใช้ในการวิเคราะห์เชิงสถิติหรือในกิจกรรมอื่นของบริษัทฯ เพื่อปรับปรุงคุณภาพเพิ่มความสะดวกในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ เท่านั้น
- บริษัทฯ อาจใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อให้ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งบริษัทจะเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมและปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่น:
นโยบายฯ นี้ใช้สำหรับการให้บริการของบริษัทฯ และการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ เท่านั้น หากผู้ใช้บริการได้เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่น แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ก็ตาม ผู้ใช้บริการจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้น ๆ แยกต่างหากจากของบริษัทฯ
การใช้กล้องวงจรปิด:
บริษัทฯ ใช้กล้องวงจรปิดในการบันทึกภาพของบุคคลและยานพาหนะของบุคคลทั้งภายในและโดยรอบ สถานที่ของบริษัทฯ โดยมีวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัยสาธารณะและเพื่อการป้องกันและตรวจจับอาชญากรรม กล้องวงจรปิดของบริษัทฯ ตรวจสอบทางเข้า ห้องโถง ระเบียง ที่จอดรถด้านนอกของอาคาร รอบรั้วของอาคารและสถานที่ที่ผู้คนสามารถเข้าถึงสถานที่ของบริษัทฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมงและมีการบันทึกและเขียนทับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่องทุกเดือน โดยตําแหน่งของกล้องได้ถูกปรับเพื่อลดการจับภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย
การป้อนข้อมูลสด (Live feeds) จากกล้องวงจรปิดจะได้รับการตรวจสอบเฉพาะในกรณีที่จําเป็นโดยบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ เท่านั้น บริษัทฯ ให้ความเชื่อมั่นว่าภาพที่บันทึกจากกล้องจะถูกเข้าถึงโดยพนักงานของบริษัทฯ ที่ผ่านการอนุมัติแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเคารพความเป็นส่วนตัวโดยจะไม่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งในบริเวณที่คาดหมายได้ว่าต้องมีความเป็นส่วนตัว เช่น ในห้องน้ำ เป็นต้น
7. การให้ความยินยอม
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะแจ้งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบ และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนหรือในขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้บริษัทฯ สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ต้องได้รับความยินยอม หรือเมื่อมีการใช้หรือเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ จะถือว่าผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์ วิธีการ และรายละเอียดที่ระบุไว้ข้างต้น ซึ่งเจ้าของข้อมูลอาจขอเพิกถอนความยินยอม หรือใช้สิทธิอื่น ๆ ต่อข้อมูลส่วนบุคคล (ดูข้อ 8 สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล) โดยการแจ้งให้บริษัทฯ ทราบ ทั้งนี้ตามวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด
กรณีที่ผู้ให้ข้อมูลจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัทฯ ผู้ให้ข้อมูลจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลนั้นก่อน และมีการรับรองว่าได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นแล้ว หรือมีสิทธิโดยประการอื่นที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นแก่บริษัทฯ เมื่อมีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นแก่บริษัทฯ จะถือว่าผู้ให้ข้อมูลให้คํารับรองว่าบุคคลนั้นทราบและให้ความยินยอมตามข้อกําหนดของนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แล้ว
กรณีที่บริษัทฯ จะต้องได้รับความยินยอมเพิ่มเติม บริษัทฯ หรือผู้ให้บริการซึ่งทำหน้าที่แทนหรือในนามของบริษัทฯ จะดําเนินการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนหรือขณะการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมนั้น
ทั้งนี้ การให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นเรื่องที่กระทําโดยสมัครใจ เจ้าของข้อมูลอาจเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลตามที่บริษัทฯ ร้องขอได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการเข้าทำสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลกับบริษัทฯ หากไม่มีการให้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ อาจไม่สามารถให้บริการ หรือทำธุรกรรม หรือนิติกรรมกับบุคคลนั้นได้
8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม ขอถอนความยินยอม คัดค้าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน ขอลบข้อมูล ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตน ขอระงับการใช้ ขอโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลขอตนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
อนึ่ง การใช้สิทธิใด ๆ ข้างต้น บริษัทฯ อาจปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลในบางกรณี หรืออาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลเห็นว่าบริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เจ้าของข้อมูลมีสิทธิร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้
เจ้าของข้อมูลสามารถใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ผ่านทางแบบฟอร์มที่บริษัทได้จัดเตรียมไว้ทาง www.ttwplc.com โทรศัพท์: 0-2019-9490-3 อีเมล: ttw_pdpa@ttwplc.com หรือติดต่อฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลเป็นพนักงานของบริษัทฯ
9. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นายภาคภูมิ ทวีวิทยรัศมิ์
รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหาร
รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหาร
30/130 หมู่ 12 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
โทรศัพท์ 0-2019-9490-3
10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ
บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายฯ เป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวในเว็บไซต์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ประกาศ ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568
นโยบายการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและระบบสารสนเทศ
บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) ตระหนักและเห็นความสำคัญของความปลอดภัยของข้อมูลและระบบสารสนเทศ จึงได้จัดทำ "นโยบายการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและระบบสารสนเทศ" เพื่อให้พนักงานและผู้เกี่ยวข้องสามารถบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม มีความปลอดภัยเพียงพอ รวมถึงสามารถป้องกันความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นทั้งโดยเจตนาหรือไม่เจตนา อันจะส่งผลกระทบต่อการให้บริการ การประสานงาน และสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมาย
วัตถุประสงค์
-
1.1
เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและมีความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ ทำให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
-
1.2
เพื่อกำหนดมาตรฐาน แนวทางปฏิบัติ และวิธีการปฏิบัติให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ รวมถึงป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้งานในลักษณะที่ไม่ถูกต้อง
-
1.3
เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ ถูกบุกรุก เปลี่ยนแปลง ขโมย ทำลาย หรือกระทำอื่นๆ ที่อาจสร้างความเสียหายต่อบริษัทฯ
แนวปฏิบัติ
-
2.1
บริษัทฯ จะกำกับดูแลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยของข้อมูลและระบบสารสนเทศให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยครอบคลุมเรื่องดังนี้
-
2.1.1
รักษาความถูกต้องปลอดภัยในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
-
2.1.2
ควบคุมการเข้าถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูล
-
2.1.3
รักษาความปลอดภัยของข้อมูล
-
2.1.4
ติดตามตรวจสอบความผิดปกติและช่องโหว่ของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
-
2.1.5
บริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีความพร้อมในการรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
-
-
2.2
บริษัทฯ มีการประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านความปลอดภัยของข้อมูลและระบบสารสนเทศ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ภายใต้ระบบการตรวจสอบตามมาตรฐานระบบ ISO 9001:2015 จากหน่วยงานตรวจสอบภายในและผู้ตรวจสอบภายนอก เพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องของการรักษาด้านความปลอดภัยของข้อมูลและระบบสารสนเทศของบริษัทฯ
-
2.3
บริษัทฯ จะดำเนินการบริหารจัดการความเสี่ยงจากการเข้าถึงทรัพย์สินสารสนเทศอย่างไม่เหมาะสม รวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับการรักษาความลับของข้อมูล และไม่เปิดเผยข้อมูลที่มีความสำคัญ
-
2.4
บริษัทฯ ดำเนินกิจการภายใต้กฎหมายไทย ดังนั้น การใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศจึงให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ที่มีผลบังคับใช้ และหากพบว่าพนักงานมีการละเมิดนโยบายการรักษาความปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ จะถูกลงโทษตามกฎระเบียบของบริษัท รวมถึงอาจมีความรับผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง หากการละเมิดนั้นผิดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย
-
2.5
ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่บริษัทฯ จัดหาให้แก่พนักงานนั้น เป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ ดังนั้น พนักงานจะต้องใช้งานเพื่อกิจการของบริษัทฯ เท่านั้น บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้ใช้ในกิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการของบริษัทฯ
-
2.6
พนักงานมีหน้าที่ดูแลรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานเทคโนโลยีสารสนเทศ หากพบว่ามีความผิดปกติ ต้องแจ้งให้หน่วยงานเทคโนโลยีสารสนเทศทราบ เพื่อทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยทันที
-
2.7
ซอฟต์แวร์ที่ได้ถูกติดตั้งบนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทฯ ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น ห้ามพนักงานคัดลอกซอฟต์แวร์ต่างๆ และนำไปติดตั้งบนอุปกรณ์ส่วนตัว หรือแก้ไข หรือนำไปให้ผู้อื่นใช้งานโดยผิดกฎหมาย
-
2.8
บริษัทฯ จัดทำชื่อผู้ใช้ (User ID) และรหัสผ่าน (Password) ให้กับพนักงานในการเข้าใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ เป็นรายบุคคล โดยไม่อนุญาตให้มีการเปิดเผยชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่านให้บุคคลอื่นทราบ
-
2.9
ห้ามพนักงานติดตั้งซอฟต์แวร์ที่มีลักษณะเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ
-
2.10
บริษัทฯ มีนโยบายในการสำรองข้อมูลสารสนเทศที่สำคัญอย่างสม่ำเสมอ โดยจะดำเนินการสำรองข้อมูลตามระยะเวลาที่กำหนดและจัดเก็บในแหล่งที่มีความปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อป้องกันความสูญหายของข้อมูลและสามารถกู้คืนข้อมูลได้ในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
มิติสังคม/สิทธิมนุษยชน
นโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและการไม่เลือกปฏิบัติ
บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) เคารพและปฏิบัติตามหลักกฎหมายเรื่องสิทธิมนุษยชน และได้กำหนดนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและการไม่เลือกปฏิบัติ โดยยึดหลักการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงการป้องกันและหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการเลือกปฏิบัติของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ได้แก่ พนักงาน ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้าและ/หรือผู้รับเหมา ชุมชนและสังคม ตลอดจนสิ่งแวดล้อม ตามหลักบรรษัทภิบาลและจรรยาบรรณการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจปราศจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการเลือกปฏิบัติ บริษัทฯ จึงเห็นควรให้กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติขึ้น เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการเลือกปฏิบัติในทุกกิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ โดยคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ ต้องตระหนักถึงความสำคัญ ไม่ละเมิด และเคารพต่อสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มตามกฎหมายไทยและกฎหมายต่างประเทศ และตามสนธิสัญญาที่แต่ละประเทศมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติ โดยรวมถึง
- ปฏิบัติต่อทุกคนตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเท่าเทียมโดยไม่เลือกปฏิบัติ
- หลีกเลี่ยงการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
- สนับสนุนและให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน
- สื่อสาร เผยแพร่ ให้ความรู้ ทำความเข้าใจ กำหนดแนวทาง สอดส่องดูแล และให้การสนับสนุนอื่นใดแก่คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ส่งมอบสินค้าและบริการ ผู้รับเหมา ตลอดจนผู้ร่วมทุน เพื่อให้มีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม เคารพต่อสิทธิมนุษยชน และปฏิบัติต่อทุกคนตามหลักสิทธิมนุษยชนตามแนวนโยบายนี้
แนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนและการไม่เลือกปฏิบัติ
-
1.
ด้านแรงงานและพนักงาน
บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อกระบวนการจ้างงานและการดูแลพนักงานเกี่ยวกับสิทธิแรงงานและสภาพการทำงานที่สอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งครอบคลุมหลักเกณฑ์ที่ระบุในคู่มือการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ นโยบายด้านทรัพยากรบุคคล นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและระบบสารสนเทศ นโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงานของบริษัทฯ ที่สอดคล้องตามมาตรฐานองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ โดยมีแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชน ด้านแรงงานและพนักงานไว้ดังนี้
-
1.1
ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เพื่อส่งเสริมการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพด้วยการไม่เลือกปฏิบัติในเรื่องมุมมอง เชื้อชาติ สีผิว ศาสนา เพศ สัญชาติ อายุ การศึกษา ความทุพพลภาพ หรือสถานภาพอื่นใดที่ถือว่าเป็นสิทธิมนุษยชนในทุกพื้นที่ของบริษัทฯ ที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ
-
1.2
ไม่สนับสนุนการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อสิทธิของกลุ่มเปราะบาง (Vulnerable Groups) ซึ่งประกอบด้วย เด็ก ผู้พิการ สตรี ผู้อพยพ แรงงานที่ว่าจ้างผ่านบุคคลที่สาม ชนพื้นเมือง ชุมชนท้องถิ่น เพศทางเลือก ผู้สูงอายุ และสตรีตั้งครรภ์
-
1.3
ปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนด้วยความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกันในทุกกระบวนการจ้างงาน ตั้งแต่การ สรรหา การจ่ายค่าตอบแทน เวลาทำงานและวันหยุด การประเมินผลการปฏิบัติงาน การฝึกอบรมและการพัฒนา การวางแผนความก้าวหน้าและอื่นๆ โดยไม่เลือกปฏิบัติภายใต้กฎระเบียบ ข้อบังคับในการทำงาน ประกาศ และคำสั่งต่างๆ ของบริษัทฯ ที่ชอบด้วยกฎหมาย
-
1.4
การเคารพสิทธิด้านเสรีภาพในการสมาคม (Right to the freedom of association) และสิทธิในการร่วมเจรจาต่อรอง (Right to Collective Bargaining) รวมถึงให้พนักงานสามารถแสดงข้อคิดเห็น ข้อร้องเรียน สิทธิที่จะเข้าถึงกระบวนการในการรับฟังการชี้แจงก่อนการตัดสินลงโทษทางวินัยภายในองค์กร
-
1.5
ไม่สนับสนุนการลงโทษที่เป็นการทรมานร่างกายและจิตใจพนักงาน ไม่ว่าจะโดยการขู่เข็ญ กักขัง หน่วงเหนี่ยว การคุกคามข่มขู่ การล่วงละเมิด หรือการใช้ความรุนแรงในรูปแบบใด รวมถึงการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นและมีมาตรการที่ต่อต้านการคุกคามทางเพศ ทั้งที่เกี่ยวข้องโดยตรงหรือในรูปแบบอื่นๆ
-
1.6
สนับสนุนให้พนักงานใช้สิทธิของตนในฐานะพลเมือง โดยชอบตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ เมื่อเกิดเหตุการณ์ขัดแย้งหรือขาดเสถียรภาพทางการเมืองและประชาธิปไตยอย่างรุนแรง
-
1.7
ไม่สนับสนุนการทุจริตคอร์รัปชัน และไม่ให้พนักงานมีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการของคู่ค้า ลูกค้า หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ที่กระทำการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากล หรือเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน
-
1.8
มีการป้องกันการละเมิดและการถูกโจมตีข้อมูลส่วนตัวของพนักงาน รวมถึงการรักษาความลับของพนักงานและไม่นำไปใช้เพื่อประโยชน์โดยมิชอบ
-
1.9
มุ่งเน้นให้สถานที่ทำงานเป็นสถานที่ปลอดภัย และปราศจากการใช้ความรุนแรงและการคุกคามต่างๆ ในกรณีที่พนักงานถูกข่มขู่คุกคาม สามารถแจ้งและ/หรือร้องเรียนได้ที่ผู้บังคับบัญชาและ/หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการโดยตรง
-
1.10
ในกรณีที่ลักษณะงานมีความไม่ปลอดภัยและมีความเสี่ยงต่อการปฏิบัติงาน พนักงานสามารถปฏิเสธการทำงานที่มีความเสี่ยงนั้นได้ โดยสามารถแจ้งที่ผู้บังคับบัญชาและ/หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการ หน่วยงานที่กำกับดูแลด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในการทำงาน เพื่อที่บริษัทฯ จะได้จัดให้มีมาตรการด้านความปลอดภัยที่เหมาะสมต่อไป
-
-
2.
ผู้ถือหุ้น
บริษัทฯ จะปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเสมอภาค โดยเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในนโยบายกำกับดูแลและคู่มือจรรยาบรรณของบริษัทฯ โดยมีแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนและการไม่เลือกปฏิบัติให้กับผู้ถือหุ้นไว้ดังนี้
-
2.1
มุ่งมั่นที่จะเป็นตัวแทนที่ดีของผู้ถือหุ้นในการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส โดยคำนึงถึงการเจริญเติบโตของมูลค่าของบริษัทฯ ในระยะยาว และมีผลตอบแทนที่ดี
-
2.2
สิทธิเท่าเทียมกันของผู้ถือหุ้นในการได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทฯ
-
2.3
เคารพสิทธิของผู้ถือหุ้นและให้ความสำคัญกับการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน โดยส่งเสริมให้ผู้ถือหุ้นได้ใช้สิทธิในเรื่องต่างๆ ทั้งสิทธิขั้นพื้นฐานและสิทธิที่พึงได้รับ
-
-
3.
ลูกค้า
บริษัทฯ ปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีต่อลูกค้า โดยยึดมั่นในหลักปฏิบัติต่อลูกค้าทุกรายด้วยการส่งมอบสินค้าและบริการที่มีความสะอาด เพียงพอ ต่อเนื่อง บนพื้นฐานของความเป็นธรรม ตรวจสอบได้ และสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างกัน โดยมีแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนและการไม่เลือกปฏิบัติให้กับลูกค้าไว้ดังนี้
-
3.1
ให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เพียงพอ และทันต่อเหตุการณ์แก่ลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าและบริการโดยไม่มีการกล่าวเกินความเป็นจริงที่เป็นเหตุให้ลูกค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณภาพ ปริมาณ หรือเงื่อนไขของสินค้าหรือบริการนั้น
-
3.2
ปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ที่มีต่อลูกค้าอย่างเคร่งครัด กรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อใดได้ ต้องรีบแจ้งให้ลูกค้าทราบ เพื่อร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหา
-
3.3
จัดให้มีระบบและกระบวนการที่ให้ลูกค้าร้องเรียนเกี่ยวกับคุณภาพ ปริมาณ ความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ความรวดเร็วในการตอบสนองหรือส่งมอบ รวมถึงประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนและการดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็ว
-
3.4
การป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า รวมถึงการรักษาความลับของลูกค้าและไม่นำไปใช้เพื่อประโยชน์โดยมิชอบ
-
3.5
ไม่เรียก หรือไม่รับ หรือจ่ายผลประโยชน์ใดๆ อันส่อถึงการกระทำที่เป็นการไม่สุจริตกับลูกค้า
-
-
4.
คู่ค้าและ/หรือผู้รับเหมา
บริษัทฯ มีหลักการปฏิบัติต่อคู่ค้าและ/หรือผู้รับเหมาอย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ โดยเน้นการพิจารณาจากการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจของผู้ให้บริการที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทฯ และได้กำหนดเป็นนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับคู่ค้าและ/หรือผู้รับเหมา ซึ่งบริษัทฯ มีการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อผู้ให้บริการจากภายนอกภายใต้การกำกับควบคุมและกฎระเบียบของบริษัทฯ โดยมีแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนและการไม่เลือกปฏิบัติให้กับคู่ค้าและ/หรือผู้รับเหมาไว้ดังนี้
-
4.1
สนับสนุนและส่งเสริมให้คู่ค้าและ/หรือผู้รับเหมาในห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจมีความตระหนัก คุ้มครอง และเคารพต่อสิทธิมนุษยชนในการดำเนินธุรกิจ
-
4.2
จัดให้มีกระบวนการจัดหาสินค้าและบริการเป็นไปอย่างมีมาตรฐาน และมีจริยธรรม มีการแข่งขันและการคัดเลือกอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เท่าเทียม และไม่เลือกปฏิบัติ
-
4.3
กำหนดให้คู่ค้าและ/หรือผู้รับเหมาเคารพในสิทธิมนุษยชนและดำเนินธุรกิจตามหลักการที่ระบุไว้ในจรรยาบรรณในการปฏิบัติต่อคู่ค้าของบริษัทฯ (Supplier Code of Conduct: SCOC) ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล
-
4.4
กำหนดให้คู่ค้าและ/หรือผู้รับเหมาปฏิบัติตามนโยบายคุณภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงนโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงาน
-
4.5
กำหนดให้คู่ค้าและ/หรือผู้รับเหมาแสดงความมุ่งมั่นในการระบุประเด็น การป้องกัน การลดผลกระทบ และการรับผิดชอบต่อผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนของตน
-
4.6
ในกรณีที่เกิดการละเมิดด้านสิทธิมนุษยชนและการเลือกปฏิบัติ กำหนดให้คู่ค้าและ/หรือผู้รับเหมาจะต้องมีกระบวนการแก้ไข และจัดการปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการเลือกปฏิบัติที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม
-
-
5.
ชุมชนและสังคม
บริษัทฯ ประกอบธุรกิจโดยคำนึงถึงความสำคัญของชุมชนและสังคม โดยเฉพาะชุมชนในพื้นที่ตั้งกิจการ โดยกำหนดไว้เป็นพันธกิจขององค์กรที่จะต้องเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมและใส่ใจต่อชุมชน จึงถือเป็นหนึ่งในหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้บริหารและพนักงานทุกคนที่จะต้องยึดถือปฏิบัติ โดยมีแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนและการไม่เลือกปฏิบัติให้กับชุมชนและสังคมไว้ดังนี้
-
5.1
สร้างความสัมพันธ์ สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือกับชุมชนในพื้นที่ตั้งกิจการตามความเหมาะสม
-
5.2
มีมาตรการในการป้องกันการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายหรือมีผลกระทบต่อชุมชนในพื้นที่ตั้งกิจการ
-
5.3
ส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนมีสิทธิในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู หรือส่งเสริมภูมิปัญญา ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นและชาติ
-
5.4
ส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนมีสิทธิในการจัดการ บำรุงรักษา ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพ
-
5.5
เสริมสร้างจิตสำนึกของพนักงานให้มีความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคมรอบข้าง โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมร่วมกับชุมชน ตลอดจนการมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในชุมชน รวมถึงการร่วมมือกับชุมชนสร้างสรรค์ท้องถิ่นและสังคมให้ร่มเย็นน่าอยู่ อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของสังคมส่วนรวม
-
5.6
การจัดทำช่องทางการแสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยมีการกำหนดผู้ดูแลรับผิดชอบในแต่ละช่องทางเพื่อแจ้งหรือรับแจ้งปัญหาและข้อร้องเรียน
-
-
6.
สิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการปกป้องและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญเทียบเท่ากับปัจจัยทางด้านการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยมีแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนและการไม่เลือกปฏิบัติให้กับสิ่งแวดล้อมไว้ดังนี้
-
6.1
มีมาตรการในการป้องกันการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
-
6.2
ส่งเสริมการคิดค้นนวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบจากการดำเนินงานต่อสิ่งแวดล้อม
-
6.3
ดำเนินธุรกิจภายใต้มาตรฐานสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
-
6.4
จัดการของเสียให้สอดคล้องตามระบบมาตรฐานสากล สำหรับระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม (ISO 14001)
-
6.5
ส่งเสริม สนับสนุน และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานสิ่งแวดล้อม เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู สิ่งแวดล้อม และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพ
-
การประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนและการเลือกปฏิบัติ
บริษัทฯ จะติดตาม ตรวจสอบ และประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนและการเลือกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอและรอบด้าน ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พร้อมกำหนดแนวทางหรือมาตรการในการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม โดยให้ทุกหน่วยงานมีหน้าที่กำกับดูแลและบริหารปัจจัยเสี่ยงที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน บริษัทฯ ได้พัฒนาช่องทางการสื่อสารแบบสองทาง เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และการปฏิบัติตนต่อการเคารพสิทธิมนุษยชนและการไม่เลือกปฏิบัติ รวมถึงเปิดโอกาสให้พนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถแสดงความคิดเห็น สะท้อนปัญหา และแจ้งเบาะแสหรือข้อร้องเรียนผ่านระบบ Whistleblower หากมีเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกี่ยวข้องต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการเลือกปฏิบัติ บริษัทฯ มีแนวทางจัดการปัญหาและเยียวยาผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและการเลือกปฏิบัติอย่างเป็นธรรม
นโยบายด้านทรัพยากรบุคคล
เพื่อให้การดำเนินงานด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) สอดรับกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตของ จึงได้กำหนดนโยบายด้านทรัพยากรบุคคล เพื่อให้ผู้บริหารและฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงาน ดังนี้
- ให้ความสำคัญกับพนักงานและถือว่าพนักงานเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของบริษัทฯ พนักงานของบริษัทฯ จะได้รับการเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ ทักษะ และความชำนาญอย่างต่อเนื่อง
- สรรหาและคัดเลือกบุคลากร ที่มีความรู้ ความสามารถ มีความประพฤติและทัศนคติที่ดี
- ให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากร ให้มีความรู้และศักยภาพในการช่วยผลักดันการดำเนิน ธุรกิจ ตามวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กร
- บริษัทฯ เคารพสิทธิมนุษยชน สิทธิของพนักงานและการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน
นโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัย ซึ่งประกอบไปด้วย ความปลอดภัยในการทำงาน อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ความมั่นคงปลอดภัยของระบบเครื่องจักรอุปกรณ์ กระบวนการผลิต และการรักษาความปลอดภัยของอาคารสถานที่ อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ก่อให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจภายใต้การดำเนินการดังต่อไปนี้
- บริษัทฯ จะสนับสนุนทรัพยากรทั้งในเรื่องบุคลากร เวลา งบประมาณ ให้การส่งเสริม จูงใจ ฝึกอบรม การตรวจความปลอดภัย และกิจกรรมอื่นๆ เพื่อปรับปรุงสภาพการทำงาน สภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย และสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัย
- บริษัทฯ จะป้องกันอุบัติเหตุ และการเจ็บป่วยในการทำงาน รวมถึงเหตุเดือดร้อนรำคาญของพนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยมุ่งเน้นการบริหารความเสี่ยง และควบคุมความสูญเสีย
- บริษัทฯ จะประเมินผลการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย และทบทวนนโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
- ความปลอดภัยถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบอันดับแรกในการปฏิบัติงานของพนักงานทุกคน และพนักงานทุกคนต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
- พนักงานทุกคนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นในขณะปฏิบัติงาน
- บริษัทฯ จะปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด ตลอดจนมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานโดยถือเป็นบรรทัดฐานเบื้องต้น
- บ่งชี้ ประเมิน และควบคุมความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมถึงการรวบรวมข้อมูลอันตรายที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงดังกล่าว
- เตรียมความพร้อมต่ออุบัติการณ์ที่เกิดขึ้น สามารถรับมือกับอุบัติการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น มีการตอบสนองต่ออุบัติการณ์ และฟื้นฟูภายหลังจากเกิดอุบัติการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเหตุการณ์เหล่านั้นจะไม่สร้างผลกระทบกับบุคลากร และทรัพย์สินทั้งภายในและภายนอกบริษัทฯ และทำให้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ผู้บริหารทุกหน่วยงานมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในการดำเนินการส่งเสริม และสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
นโยบายป้องกันการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในที่ทำงาน
หลักการและขอบเขต
บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) ตระหนักดีว่าบุคคลทุกคนต่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรีในตนเองอย่างเท่าเทียมกัน นโยบายนี้จะเป็นส่วนประกอบเสริมกับนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและการไม่เลือกปฏิบัติ (Human Rights and Non-Discrimination Policy) โดยกลุ่มบริษัทจะดำเนินการเพื่อป้องกันและคุ้มครองพนักงานทุกระดับ ไม่ให้ถูกล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในรูปแบบต่างๆ เพื่อที่จะสร้างให้สถานที่ทำงานเป็นที่ที่น่าทำงานและมีความปลอดภัย และหากมีเหตุการณ์ที่พนักงานถูกล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในที่ทำงานหรือเกี่ยวเนื่องจากการทำงาน โดยเกิดจากการกระทำของผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน หรือผู้ที่ติดต่อประสานงานด้วย บริษัทฯ จะดำเนินการพิจารณาสอบสวนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
แนวทางปฏิบัติ
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงานทุกคนว่าจะได้รับการปฏิบัติและปกป้องไม่ให้ถูกล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้มีพฤติกรรมดังต่อไปนี้ในทุกพื้นที่ของบริษัทฯ โดยเด็ดขาด (Zero Tolerance)
- การแสดงออกทางวาจา เช่น การพูดจาล่วงเกิน พูดเกี่ยวกับเรื่องเพศ พูดถึงสัดส่วนของร่างกาย
- การแสดงลักษณะทางกิริยา เช่น การจ้องมองด้วยสายตาคุกคามทางเพศ การผิวปาก การจับมือถือแขน การถูกเนื้อต้องตัวหรือใกล้ชิดโดยไม่จำเป็น
- การแสดงสิ่งของ ภาพหรือการ์ตูนลามก รวมถึงการส่งภาพผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดในเชิงอนาจาร
- การใช้คำพูดที่เป็นการชักชวน หรือสามารถตีความได้ว่าเป็นการร้องขอให้เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์หรือโทษจากงาน เช่น การใช้อำนาจให้คุณให้โทษระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงาน การเสนอข้อแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการทำงาน เพื่อให้ได้มาซึ่งความพึงพอใจทางเพศ เป็นต้น
มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ
- พนักงานผู้ถูกกระทำสามารถร้องเรียนโดยตรงที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการ ซึ่งกระบวนการทางวินัยจะเป็นความลับหรือตามความประสงค์ของผู้ถูกกระทำเป็นหลัก
- ใช้กระบวนการจัดการปัญหาที่เป็นมิตร ไม่สร้างความอับอายแก่ทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ
- มีมาตรการคุ้มครองผู้ร้องทุกข์และผู้เป็นพยาน ไม่ให้มีผลกระทบต่อหน้าที่การงานหรือการดำรงชีวิต
- เน้นการสร้างสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดีในการทำงาน การเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน และไม่ยอมรับการกระทำที่เป็นการล่วงละเมิดหรือการคุกคามทางเพศ
- มีการอบรมหรือสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการต่อต้านการล่วงละเมิดหรือการคุกคามทางเพศ
มิติด้านสิ่งแวดล้อม
นโยบายด้านการพัฒนาความยั่งยืน
บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) ตระหนักและให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ขององค์กร “เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ น้ำ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม” โดยการดำเนินธุรกิจอย่างมีหลักธรรมาภิบาลควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้เสียผ่านกระบวนการดำเนินงานที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายด้านการพัฒนาความยั่งยืน เพื่อเป็นกรอบการบริหารจัดการด้านการพัฒนาความยั่งยืนขององค์กร
1. การกำกับดูแลกิจการที่ดี
ดำเนินธุรกิจตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีหลักธรรมาภิบาลตามแนวทางปฏิบัติขององค์กรในคู่มือการกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่าขององค์กรเพื่อให้การดำเนินธุรกิจมีความต่อเนื่อง โดยก่อให้เกิดคุณค่าร่วมและดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุลและเท่าเทียม
2. การพัฒนากระบวนการทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจน้ำอย่างครบวงจรทั้งด้านการจัดการน้ำดิบ ผลิตน้ำประปา และบำบัดน้ำเสีย รวมถึงการมองหาโอกาสในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมนอกเหนือจากธุรกิจน้ำ โดยตระหนักในการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและบริการในระยะยาว และคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและสร้างนวัตกรรมด้านธุรกิจควบคู่กับนวัตกรรมด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อบรรลุเป้าหมายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
3. การสร้างคุณค่าร่วมทางสังคม
บริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม พัฒนาความรู้และทักษะที่จำเป็นตามแผนการพัฒนาพนักงาน ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการทำงาน และสนับสนุนระบบจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่ดี ส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล โดยยึดหลักความเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ รวมถึงสนับสนุนการมีส่วนร่วมกับชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่พนักงาน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และชุมชนที่อาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่ธุรกิจของบริษัทฯ โดยการสานความสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ และความร่วมมืออย่างเข้มแข็ง เพื่อลดความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
4. การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ตระหนักและให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์พลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า บริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งเสริมความร่วมมือและการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและดูแลสิ่งแวดล้อมระหว่างองค์กรกับหน่วยงานภายนอก และให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
นโยบายคุณภาพและสิ่งแวดล้อม
บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) มุ่งมั่นที่จะดำเนินระบบ ISO9001 และ ISO14001 โดยเน้นการมีส่วนร่วมของบุคลากร เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสมดังนี้
- ผลิตและส่งมอบน้ำประปาที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของลูกค้า
- สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าโดยตรง และลูกค้าโดยอ้อม
- ปรับปรุงและพัฒนาความรู้ความสามารถ ทักษะ และความชำนาญให้กับพนักงานทุกคน เพื่อให้เกิดจิตสำนึกในด้านคุณภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมให้กับลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
- ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับลักษณะปัญหาสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยในการทำงานของบริษัทฯ
- จัดการของเสีย ป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากกิจกรรมของบริษัทฯ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างคุ้มค่าสูงสุด
- การจัดหาสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
ทั้งนี้ พนักงานทุกคนมีบทบาทและหน้าที่ในการนำแนวทางตามนโยบายฉบับนี้นำมาใช้ในการปฏิบัติงาน และการกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานด้านคุณภาพและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการรายงานผลการดำเนินการต่อฝ่ายบริหาร รวมถึงผู้บริหารทุกหน่วยงานมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการส่งเสริม สนับสนุนในเรื่องงบประมาณ กำลังคน เวลา อย่างเพียงพอ และเหมาะสม เพื่อผลักดันเรื่องคุณภาพและสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามนโยบาย วัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่กำหนด
นโยบายการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก
บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงสนับสนุนส่งเสริมการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กร สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการลดก๊าซเรือนกระจกตามที่ประเทศไทยได้แสดงเจตจำนงการลดก๊าซเรือนกระจกไว้ต่อรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change :UNFCCC) จึงประกาศนโยบายบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ดังต่อไปนี้
- มุ่งมั่นในการเป็นองค์กรที่มีการจัดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- ปรับปรุงกระบวนการขององค์กรให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียน และพลังงานสะอาด เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
- ส่งเสริมการจัดการขยะในองค์กร เพื่อลดปริมาณของเสีย
- สร้างความตระหนัก และเสริมสร้างความรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้กับพนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
นโยบายความหลากหลายทางชีวภาพ
บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (บริษัทฯ) มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญและส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้มีความสมบูรณ์สามารถส่งต่อสู่คนรุ่นใหม่ได้อย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงกำหนดนโยบายความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติไปในทางเดียวกัน ดังนี้
- ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพโดยหลีกเลี่ยงการเข้าดำเนินการในพื้นที่ที่มีความสำคัญหรือมีความเสี่ยงต่อความหลากหลายทางชีวภาพ
- กําหนดให้มีการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงมาตรการควบคุม ป้องกัน และลดผลกระทบเชิงลบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการเปลี่ยนแปลงความหลากหลายทางชีวภาพ
- เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักรู้เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพแก่ผู้บริหาร พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ
- ส่งเสริมการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อดูแลปกป้องสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และทรัพยากรธรรมชาติให้คงความอุดมสมบูรณ์
- สร้างการมีส่วนร่วมทั้งภายในและภายนอกองค์กรให้กับ ผู้บริหาร พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ โดยส่งเสริมกิจกรรมในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
- มีรายงานความก้าวหน้าและติดตามในการดำเนินกิจกรรม เพื่อรักษาไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพ