นโยบายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นและผู้ที่มีส่วนได้เสีย

นโยบายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นและผู้ที่มีส่วนได้เสีย
หลักการทั่วไป

สิทธิของผู้ถือหุ้น

บริษัทให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือนักลงทุนสถาบันโดยไม่คำนึงถึงเพศ อายุ ความพิการ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา หรือความคิดเห็นทางการเมือง ผู้ถือหุ้นทุกรายมีสิทธิที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันและเป็นธรรม

บริษัทส่งเสริมให้ผู้ถือหุ้นได้ใช้สิทธิพื้นฐานทางกฎหมาย เช่น

  • สิทธิในการรับส่วนแบ่งผลกำไรของกิจการในรูปแบบของเงินปันผลอย่างเท่าเทียมกัน
  • สิทธิในการซื้อขายหรือการโอนหุ้นของบริษัทตามที่กฎหมายกำหนด
  • สิทธิในการได้รับข่าวสารข้อมูลของกิจการอย่างเพียงพอ ทันเวลาในรูปแบบที่เหมาะสมต่อการตัดสินใจ
  • สิทธิในการเข้าร่วมประชุมเพื่อใช้สิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการ การกำหนดค่าตอบแทนกรรมการ การแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดจำนวนเงินค่าสอบบัญชี
  • สิทธิอื่นๆ ตามบทบัญญัติที่กำหนดไว้ในกฎหมาย กฎระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อบังคับของบริษัท

นอกจากนี้บริษัทได้ดูแลและปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียม เช่น การให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นปัจจุบันผ่านเว็บไซต์ของบริษัท การเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นและเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ การจัดให้ผู้ถือหุ้นเข้าเยี่ยมชมกิจการ เข้าร่วมกิจกรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม และไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ อันเป็นการละเมิดหรือลิดรอนสิทธิของผู้ถือหุ้น แต่อย่างใด

การประชุมผู้ถือหุ้น

คณะกรรมการบริษัทให้ความสำคัญต่อการจัดการประชุมผู้ถือหุ้น โดยจะกำหนดวัน เวลา และสถานที่จัดการประชุมที่เหมาะสม อำนวยความสะดวกต่อผู้ถือหุ้นในการเข้าประชุม ตลอดจนปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

2.1 ก่อนวันประชุม

บริษัทให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น บริษัทได้จัดทำประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจได้ว่า บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยมีมาตรฐานตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

บริษัทได้จัดเตรียมเอกสารการประชุมที่มีข้อมูลครบถ้วนในสาระสำคัญสำหรับประกอบการพิจารณาออกเสียงลงคะแนนของผู้ถือหุ้น พร้อมแนวปฏิบัติสำหรับผู้ถือหุ้น การลงทะเบียน วิธีมอบฉันทะ และข้อปฏิบัติสำหรับการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น โดยเผยแพร่ข้อมูลให้ผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้า และสนับสนุนให้ผู้ถือหุ้นมีส่วนร่วมในการประชุมผู้ถือหุ้น รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิออกเสียงในกรณีที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองได้ ดังนี้

  • 2.1.1

    เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี และเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมการล่วงหน้าระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม ของทุกปี โดยบริษัทเปิดเผยหลักเกณฑ์และวิธีการบนเว็บไซต์ของบริษัท พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบผ่านระบบ SET Link ของ ตลท.

  • 2.1.2

    แจ้งกำหนดการประชุมและระเบียบวาระการประชุมให้ผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้าผ่านระบบ SET Link ของ ตลท. และเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้ผู้ถือหุ้นสามารถวางแผนเวลาในการเข้าร่วมประชุมได้ รวมทั้งได้แจ้งกำหนดวันให้สิทธิผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมและการรับเงินปันผล

  • 2.1.3

    จัดทำหนังสือเชิญประชุมพร้อมรายละเอียดของแต่ละระเบียบวาระการประชุมทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยแยกแต่ละระเบียบวาระไว้อย่างชัดเจน และได้แยกเรื่องการแต่งตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระ และการพิจารณาค่าตอบแทนกรรมการเป็นระเบียบวาระแยกออกจากกัน แต่ละระเบียบวาระประกอบด้วย ข้อเท็จจริงและเหตุผล ความเห็นของคณะกรรมการ หลักเกณฑ์และวิธีการในการเข้าร่วมประชุม และหนังสือมอบฉันทะทั้ง 3 แบบ (แบบ ก. แบบ ข. และแบบ ค.) ตามที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์กำหนด

  • 2.1.4

    เผยแพร่หนังสือเชิญประชุมและเอกสารที่เกี่ยวข้อง พร้อมแบบ 56-1 One Report บนเว็บไซต์ของบริษัท และแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบผ่านระบบ SET Link ของ ตลท. ก่อนการประชุม 30 วัน เพื่อให้ผู้ถือหุ้น ได้มีระยะเวลาเพียงพอในการศึกษาข้อมูลล่วงหน้าก่อนวันประชุม

  • 2.1.5

    จัดส่งหนังสือเชิญประชุมล่วงหน้าทางไปรษณีย์ ไม่น้อยกว่า 21 วันก่อนวันประชุม ทั้งนี้จัดให้มีหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อสอบถามรายละเอียดในกรณีที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม

  • 2.1.6

    ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ถือหุ้นทุกราย รวมทั้งนักลงทุนสถาบันได้ใช้สิทธิในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นและออกเสียงลงคะแนน

  • 2.1.7

    เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นสามารถส่งคำถามเกี่ยวกับการประชุมผู้ถือหุ้นล่วงหน้าก่อนวันประชุม โดยกำหนดหลักเกณฑ์การส่งคำถามล่วงหน้าไว้อย่างชัดเจนและเผยแพร่หลักเกณฑ์ดังกล่าวไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์สูงสุดจากการประชุม รวมทั้งเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น

  • 2.1.8

    ดูแลไม่ให้มีการกระทำใดๆ ที่เป็นการจำกัดโอกาสการเข้าประชุมของผู้ถือหุ้น หรือสร้างภาระให้ผู้ถือหุ้น

2.2 วันประชุมผู้ถือหุ้น

บริษัทสนับสนุนให้ผู้ถือหุ้นทุกรายใช้สิทธิในการเข้าประชุมและออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ถือหุ้นที่จะเข้าร่วมประชุมและดำเนินการประชุมอย่างโปร่งใส และสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในการประชุมผู้ถือหุ้น ทั้งระบบการลงทะเบียน การนับคะแนนและ การแสดงผล เพื่อให้การประชุมสามารถกระทำได้รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ ตรวจสอบได้ และไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการละเมิดหรือลิดรอนสิทธิของผู้ถือหุ้นรวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นได้ซักถามและแสดงความคิดเห็น ได้อย่างเต็มที่ ดังนี้

  • 2.2.1

    บริษัทได้แจ้งแนวทางปฏิบัติ วิธีการลงทะเบียน วิธีมอบฉันทะ และข้อปฏิบัติสำหรับ การเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นไปยังผู้ถือหุ้นผ่านหนังสือเชิญประชุม และอำนวยความสะดวกในการให้ข้อมูลผู้ถือหุ้นผ่านทางโทรศัพท์และอีเมล

  • 2.2.2

    สนับสนุนให้ผู้ถือหุ้นที่ไม่สะดวกเข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง สามารถมอบฉันทะให้บุคคลอื่น เข้าร่วมประชุมและออกเสียงแทนตนได้ โดยใช้หนังสือมอบฉันทะรูปแบบที่ผู้ถือหุ้นสามารถกำหนดการลงคะแนนเสียงได้ ซึ่งบริษัทได้แนบไปพร้อมกับหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ ในการประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้ง บริษัทจะเสนอชื่อกรรมการอิสระอย่างน้อย 1 ท่าน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นพิจารณามอบฉันทะให้กรรมการอิสระเข้าร่วมประชุมและออกเสียงแทนการเข้าประชุมด้วยตนเอง

  • 2.2.3

    บริษัทดำเนินการประชุมโดยจะพิจารณานำเสนอข้อมูลแต่ละวาระตามลำดับที่ระบุไว้ในหนังสือเชิญประชุม และการนำเสนอระเบียบวาระจะเริ่มจากความเป็นมา เหตุผล ความจำเป็นและข้อเสนอต่อที่ประชุม โดยรายละเอียดของข้อมูลที่สำคัญได้แจ้งผู้ถือหุ้นในหนังสือนัดประชุมแล้ว โดยไม่มีการเพิ่มระเบียบวาระใดๆ ในที่ประชุม

  • 2.2.4

    เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นแสดงความคิดเห็น ซักถามต่อที่ประชุมก่อนการลงมติในแต่ละวาระ ผู้ถือหุ้นสามารถพิมพ์คำถามส่งเข้ามาระหว่างการประชุมได้เมื่อเสร็จสิ้นแต่ละวาระ โดยเลขานุการบริษัทจะทำการอ่านคำถามในทุกวาระการประชุมเพื่อให้ที่ประชุมตอบข้อซักถามในทุกประเด็น ตลอดจนสามารถเปิดกล้องเพื่อทำการซักถามได้ด้วย และมีการบันทึกไว้ในรายงานการประชุมอย่างครบถ้วน

  • 2.2.5

    สนับสนุนให้มีการใช้บัตรลงคะแนนเสียงในทุกวาระ ในกรณีที่วาระใดมีหลายรายการควรจัดให้มีการลงมติแยกในแต่ละรายการ และเปิดเผยผลการลงคะแนนที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และงดออกเสียงในแต่ละวาระให้ที่ประชุมทราบ พร้อมทั้งบันทึกไว้ในรายงานการประชุม ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้

  • 2.2.6

    สนับสนุนให้กรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชีเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นอย่างพร้อมเพรียง เพื่อตอบคำถามและรับทราบความเห็นของผู้ถือหุ้น โดยประธานกรรมการ ประธานคณะกรรมการชุดย่อย ทุกคณะและกรรมการผู้จัดการ พร้อมผู้บริหาร เข้าร่วมประชุมและร่วมชี้แจงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องของระเบียบวาระต่างๆ

  • 2.2.7

    หากมีกรรมการที่มีส่วนได้เสียในระเบียบวาระใดๆ บริษัทจะระบุกรรมการที่มีส่วนได้เสียไว้ในหนังสือเชิญประชุม และกรรมการท่านนั้นจะไม่อยู่ในที่ประชุมในระเบียบวาระนั้น

  • 2.2.8

    จัดให้มีผู้สอบบัญชีที่ไม่ได้ทำหน้าที่สอบบัญชีของบริษัท และนักกฎหมายที่ไม่ใช่ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัท เป็นสักขีพยานในการประชุม

  • 2.2.9

    ให้สิทธิผู้ถือหุ้นที่มาร่วมประชุมหลังจากที่การประชุมเริ่มแล้ว มีสิทธิออกเสียงหรือลงคะแนนในระเบียบวาระที่อยู่ระหว่างการพิจารณาและยังไม่ได้ลงมติ

  • 2.2.10

    จัดให้มีที่ปรึกษากฎหมายทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสารการมอบฉันทะในการเข้าร่วมประชุม องค์ประชุม วิธีการลงคะแนนและการนับคะแนนตามข้อบังคับของบริษัท และการตรวจสอบผลของมติและผลการลงคะแนน

2.3 หลังการประชุม

  • 2.3.1

    หลังการประชุมผู้ถือหุ้น บริษัทแจ้งสรุปผลการลงมติของที่ประชุมในแต่ละระเบียบวาระให้ผู้ถือหุ้นทราบผ่านระบบ SET Link ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามหลักเกณฑ์การแจ้งสารสนเทศ

  • 2.3.2

    บริษัทได้จัดทำรายงานการประชุมซึ่งได้บันทึกรายชื่อและตำแหน่งของกรรมการ ผู้บริหาร ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบและผู้สังเกตการณ์ประชุมที่เข้าร่วมประชุม วิธีการลงคะแนน การนับคะแนน ข้อเสนอของคณะกรรมการ ข้อซักถามและข้อเสนอแนะของผู้ถือหุ้น ประเด็นชี้แจงจากผู้บริหาร อีกทั้งได้บันทึก คะแนนเสียงทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย งดออกเสียง บัตรเสีย และมติที่ประชุมในแต่ละระเบียบวาระการประชุม และนำส่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านระบบ SET Link พร้อมเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.ttwplc.com ภายใน 14 วันนับจากวันที่ประชุม ซึ่งอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ ตลท. กำหนด

  • 2.3.3

    บริษัทจัดให้มีการเผยแพร่ภาพและเสียงที่บันทึกจากการประชุมบนเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้ ผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมได้รับทราบ

  • 2.3.4

    หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผล บริษัทได้แจ้งมติที่ประชุมรวมถึงรายละเอียดการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นทราบผ่านระบบ SET Link ของ ตลท. และประสานงานกับ นายทะเบียน TSD พร้อมประกาศแจ้งการจ่ายเงินปันผลทางหนังสือพิมพ์ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิ เงินปันผลอย่างครบถ้วนและถูกต้อง

การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม

คณะกรรมการบริษัทตระหนักถึงการดูแลผลประโยชน์และการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกราย ผู้ถือหุ้นต่างชาติ และนักลงทุนสถาบันให้มีความเท่าเทียมกัน ยุติธรรม โดยได้มีการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกันไว้ในนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด โดยได้มีการปฏิบัติดังนี้

  • 3.1

    กำหนดให้สิทธิออกเสียงในที่ประชุมเป็นไปตามจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นถืออยู่ โดยหนึ่งหุ้นมีสิทธิเท่ากับหนึ่งเสียง

  • 3.2

    เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี และเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมการล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี โดยบริษัทเปิดเผยหลักเกณฑ์และวิธีการบนเว็บไซต์ของบริษัทพร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบผ่านระบบ SET Link ของ ตลท.

  • 3.3

    บริษัทมีนโยบายที่จะรักษาสิทธิของผู้ถือหุ้นทุกราย กล่าวคือ จะไม่เพิ่มระเบียบวาระในที่ประชุมโดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ถือหุ้นอื่นทราบล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้มีโอกาสศึกษาข้อมูลของระเบียบวาระ การประชุมก่อนการลงมติ ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นของบริษัททุกรายมีสิทธิออกเสียงตามจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ โดยแต่ละหุ้นมีสิทธิออกเสียงหนึ่งเสียง และไม่มีหุ้นใดมีสิทธิพิเศษที่เป็นการจำกัดสิทธิของผู้ถือหุ้นรายอื่น

  • 3.4

    เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ บริษัทจัดให้มีการใช้บัตรลงคะแนนเสียงในทุกระเบียบวาระ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นแต่งตั้งกรรมการเป็นรายบุคคล โดยมีที่ปรึกษากฎหมาย เป็นคนกลางทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบดูแลให้การประชุมผู้ถือหุ้นเป็นไปอย่างโปร่งใส ถูกต้องตามกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นที่ไม่สามารถเข้าประชุมด้วยตนเอง สามารถใช้สิทธิออกเสียงโดยการมอบฉันทะ ซึ่งบริษัทจัดทำหนังสือมอบฉันทะทั้ง 3 แบบตามที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำหนด รวมทั้งเสนอกรรมการอิสระของบริษัทจำนวน 2 ท่าน ซึ่งไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์เกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นทางเลือกให้ผู้ถือหุ้นสามารถมอบฉันทะให้ลงคะแนนเสียงแทนในกรณีที่ผู้ถือหุ้นไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ และได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ถือหุ้นสามารถดาวน์โหลดหนังสือมอบฉันทะผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทได้

  • 3.5

    เนื่องจากผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ที่มาเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นคนไทย จึงดำเนินการประชุมเป็นภาษาไทย แต่เพื่อประโยชน์ในการสื่อสารและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ถือหุ้นชาวต่างชาติ บริษัทจึงจัดทำหนังสือเชิญประชุมและเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรายงานการประชุมทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

  • 3.6

    ใช้บัตรลงคะแนนเสียงในทุกวาระการประชุม โดยเฉพาะในวาระเลือกตั้งกรรมการที่ผู้ถือหุ้นสามารถเลือกตั้งได้เป็นรายบุคคล โดยมีคะแนนเสียงเท่ากับจำนวนหุ้นที่ตนมีต่อการเลือกตั้งกรรมการ 1 คน

  • 3.7

    กำหนดให้กรรมการซึ่งมีส่วนได้เสียในเรื่องที่พิจารณาไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนและต้องไม่อยู่ในที่ประชุมในวาระดังกล่าว

  • 3.8

    คณะกรรมการบริษัทได้กำหนดมาตรการป้องกันการใช้ข้อมูลภายในโดยมิชอบ (Insider Trading) ของบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งหมายถึง คณะกรรมการ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทและพนักงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล (รวมทั้งคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของบุคคลดังกล่าว) โดยมีหลักการที่สำคัญเปิดเผยรายละเอียดในหัวข้อการดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน

การป้องกันการใช้ข้อมูลภายใน

การป้องกันการใช้ข้อมูลภายในเพื่อผลประโยชน์

บริษัทได้กำหนดแนวทางในการป้องกันการใช้ข้อมูลภายในอย่างเคร่งครัด เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลภายในเพื่อหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองและผู้อื่นในทางมิชอบ โดยให้ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาที่จะควบคุมดูแลให้การรักษาข้อมูลภายในเป็นไปตามหลักการ และการที่พนักงานใช้ข้อมูลภายในที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะหรือต่อผู้ถือหุ้นทั่วไปเพื่อประโยชน์ในการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการส่วนตนหรือเพื่อผู้อื่น ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณของบริษัท

แนวทางการป้องกันการใช้ข้อมูลภายใน (Guideline for Prevention of Use of Inside Information) ของบริษัทได้ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2549 ได้ส่งเป็นจดหมายเวียนและเผยแพร่บนเว็บไซต์ของบริษัทให้กับกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานได้รับทราบและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยมีรายละเอียดดังนี้

แนวทางการป้องกันการใช้ข้อมูลภายใน

หลักการทั่วไป

บริษัท เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดำเนินธุรกิจตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ว่าดัวยการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่กระทำโดยกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัท และพนักงานของบริษัทย่อย ห้ามมิให้อาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาตลาดของหุ้นหรือหลักทรัพย์ที่ยังมิได้เปิดเผยต่อประชาชนโดยทั่วไปที่รู้มาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือมีตำแหน่งในบริษัท อาจทำให้ต้องรับผิดตามกฎหมายซึ่งมีโทษทางอาญา ทั้งนี้ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 ได้มีการแก้ไขและประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2559 ซึ่งบริษัทได้ทำหนังสือเวียนให้กับกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัท และพนักงานของบริษัทย่อย ได้ทราบและนำไปปฏิบัติ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันมิให้กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัท และบริษัทย่อย ต้องเผชิญกับการกระทำที่อาจฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าว ตลอดจนเพื่อเป็นการดำเนินการตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัท คณะกรรมการบริษัทจึงได้กำหนดแนวทางการป้องกันการใช้ข้อมูลภายในขึ้น โดยกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัท และบริษัทย่อยทุกคนจะต้องปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เป็นไปตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 โดยบริษัทได้กำหนดแนวทางการป้องกันการใช้ข้อมูลภายในไว้ ดังนี้

กรรมการ

  1. กรรมการจะต้องไม่ใช้ข้อมูลที่ได้รับในฐานะกรรมการบริษัทในทางที่มิชอบ หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท
  2. กรรมการจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับทางธุรกิจ หรือข้อมูลที่มีผลกระทบต่อการทำธุรกิจให้บุคคลภายนอกทราบ
  3. กรรมการ คู่สมรส และบุตรที่ไม่บรรลุนิติภาวะ จะต้องไม่ซื้อหรือขายหุ้นในขณะที่มีข้อมูลภายในของบริษัทซึ่งหากเปิดเผยต่อสาธารณชนจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้น
  4. กรรมการจะต้องไม่แจ้งข้อมูลซึ่งยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน ให้ผู้อื่นอันอาจนำไปสู่การจองซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัท

พนักงาน

  1. พนักงานจะปฏิบัติตามข้อกำหนดของ ตลท. / ก.ล.ต. และกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ถือหุ้นและ/หรือต่อสาธารณะโดยเท่าเทียมกัน
  2. การเปิดเผยข้อมูลที่มีผลกระทบต่อธุรกิจและราคาหุ้นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากกรรมการผู้จัดการ ซึ่งจะเป็นผู้ดำเนินการเปิดเผยข้อมูลเอง หรือมอบหมายให้ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
  3. หน่วยงานกลางที่เป็นผู้ให้ข้อมูลแก่สาธารณชนและนักลงทุนคือ สำนักกรรมการผู้จัดการ ได้แก่ นักลงทุนสัมพันธ์ ส่วนเลขานุการบริษัท เป็นต้น โดยหน่วยงานที่เป็นเจ้าของข้อมูลมีหน้าที่สนับสนุนข้อมูล ทั้งนี้ บริษัทกำหนดห้าม กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานที่เกี่ยวข้องและรู้ข้อมูลเกี่ยวกับงบการเงิน ซื้อและ/หรือขายหุ้นไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนการเปิดเผยข้อมูลและ 24 ชั่วโมงหลังการเปิดเผยข้อมูล สำหรับสารสนเทศที่มีนัยสำคัญอื่นๆ ห้ามมิให้ผู้บริหาร และพนักงานที่รู้ข้อมูลซื้อขายหุ้นนับตั้งแต่วันที่ทราบข้อมูลและ 24 ชั่วโมงภายหลังเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อ ตลท. นอกจากนั้น บริษัทได้กำหนดให้มีระบบการควบคุมภายในเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลข่าวสารอย่างรอบคอบและรัดกุมเพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลภายในเปิดเผยออกสู่ภายนอกก่อนการเผยแพร่ อย่างเป็นทางการ โดยให้ถือว่า มาตรการและระบบควบคุมนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมความเสี่ยงที่สำคัญของบริษัทรวมทั้งให้ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาที่จะควบคุมดูแลให้การรักษาข้อมูลภายในเป็นไปตามมาตรการดังกล่าว การที่พนักงานใช้ข้อมูลภายในที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะหรือต่อผู้ถือหุ้นทั่วไป เพื่อประโยชน์ในการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการส่วนตนหรือเพื่อผู้อื่น ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณของบริษัท

การซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายใน

บุคคลต้องห้าม

บุคคลที่ไม่ควรซื้อขายหลักทรัพย์ตามแนวทางป้องกันการใช้ข้อมูลภายใน ได้แก่

  1. กรรมการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจควบคุมกิจการของบริษัท
  2. พนักงาน หรือลูกจ้างบริษัท บริษัทในเครือ ที่อยู่ในตำแหน่งหรือสายงานที่รับผิดชอบข้อมูลภายในหรือเข้าถึงข้อมูลภายใน
  3. บุคคลซึ่งอยู่ในฐานะที่สามารถรู้ข้อมูลภายในอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน หรือบุคคลใดที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับข้อมูลภายใน
  4. บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้รับบุตรบุญธรรม หรือบุตรบุญธรรมตามบุคคลข้อ (1) (2) (3)
  5. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน หรือพี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกันตามบุคคลข้อ (1) (2) (3)
  6. คู่สมรสหรือผู้ที่อยู่กินกันด้วยฉันสามีภรรยาของบุคคลตามข้อ (1) (2) (3)

หลักทรัพย์ต้องห้าม

หลักทรัพย์ หมายถึง หุ้น (Shares) ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัท (share warrants) หุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible Debentures) และใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (Transferable Subscription Rights) ที่ออกโดยบริษัท

แนวทางการปฏิบัติทั่วไป

  1. บุคคลต้องห้าม ไม่ควรซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในขณะใดๆ ก็ตาม หากบุคคลดังกล่าว รู้หรือควรรู้ข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญ อันอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาตลาดของหลักทรัพย์ของบริษัทที่ยังมิได้เปิดเผยต่อสาธารณชน
  2. บุคคลต้องห้ามที่ได้รู้ข้อมูลซึ่งมีสาระสำคัญดังกล่าวข้างต้น จากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งและ/หรือฐานะเจ้าหน้าที่ในบริษัท ต้องไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้ผู้อื่นทราบ ในขณะที่ข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน นอกจากเป็นไปตามการปฏิบัติหน้าที่ของตนในบริษัท

แนวทางปฏิบัติเฉพาะเรื่อง

นอกจากแนวทางการปฏิบัติโดยทั่วไปในเรื่องการป้องกันการใช้ข้อมูลภายในแล้ว กรณีเฉพาะเรื่องดังต่อไปนี้ บุคคลต้องห้ามพึงปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้ด้วย

  1. ห้ามบุคคลต้องห้ามที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการจัดทำงบการเงินบริษัททำการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัท นับแต่เริ่มจัดเตรียมจนถึงวันสิ้นสุดวันถัดจากวันที่ได้มีการเปิดเผยงบการเงินดังกล่าวแล้ว
  2. ห้ามกรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานผู้ใดที่ได้รับร่างงบการเงินของบริษัททำการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทนับแต่วันที่ตนได้รับร่างงบการเงินดังกล่าว จนถึงสิ้นสุดวันที่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลตามงบการเงินนั้นแล้ว
  3. ห้ามบุคคลต้องห้ามที่รู้หรือควรรู้ว่าบริษัทจะมีการเผยแพร่ข้อมูลซึ่งมีสาระสำคัญ ที่อาจมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงราคาตลาดของหลักทรัพย์ของบริษัททำการซื้อหรือขายหลักทรัพย์นับแต่วันรู้หรือควรรู้ดังกล่าวจนถึงสิ้นสุดวันถัดจากวันที่ได้ทำการเปิดเผยและเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวแล้ว
  4. บริษัทกำหนดให้กรรมการและผู้บริหารระดับสูงต้องเปิดเผยรายงานการซื้อขายหุ้นการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของบริษัทให้ทราบทุกครั้ง
  5. บริษัทได้กำหนดนโยบายให้กรรมการและผู้บริหารระดับสูงแจ้งต่อคณะกรรมการ ในการซื้อขายหุ้นของบริษัทอย่างน้อย 1 วันล่วงหน้าก่อนทำการซื้อขาย

การรายงานของบุคคลต้องห้าม

หน้าที่การจัดทำรายงาน

  1. กรรมการผู้จัดการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารตามที่พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนดต้องจัดทำรายงานการถือครองหลักทรัพย์ครั้งแรก และการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของตนตามที่กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกำหนด และรายงานในเรื่องดังกล่าวต่อบริษัทพร้อมกันด้วย
  2. ผู้บริหารระดับผู้อำนวยการฝ่ายขึ้นไป จะต้องทำการรายงานการได้มาหรือจำหน่ายไปของหลักทรัพย์ของบริษัทที่ตนถืออยู่ ตั้งแต่ร้อยละ 5 ขึ้นไปของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้ทั้งหมด

วิธีการรายงาน

  1. กรรมการผู้จัดการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหาร ซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายต้องจัดทำและส่งรายงานการถือครองหลักทรัพย์ของบริษัทของตน คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีหน้าที่ต้องส่งสำเนารายงานที่ส่งให้กับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแล ต่อบริษัทในวันที่ส่งรายงานดังกล่าว
  2. ผู้บริหารระดับผู้อำนวยการฝ่ายขึ้นไป ให้จัดทำรายงานการถือครอง และการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ ของตน คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อบริษัทภายใน 7 วันทำการนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ในหลักทรัพย์ดังกล่าว

ความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย

คณะกรรมการมีนโยบายที่จะดูแลสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยให้ความสำคัญกับเรื่องที่มีผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจโดยตรง และเรื่องที่ถือเป็นหน้าที่ที่พึงกระทำต่อสังคมส่วนรวมด้วย คณะกรรมการจึงได้กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละกลุ่มไว้อย่างชัดเจนในนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทและจรรยาบรรณทางธุรกิจ เพื่อให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานยึดถือปฏิบัติในการทำงาน สรุปได้ดังนี้

บริษัทปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเสมอภาค เป็นไปตามนโยบายกำกับดูแลและคู่มือจรรยาบรรณของบริษัท มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นตัวแทนที่ดีของผู้ถือหุ้นในการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสโดยคำนึงถึง การเจริญเติบโตของมูลค่าบริษัทในระยะยาว มีผลตอบแทนที่ดี ให้ข้อมูลข่าวสารแก่ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน

บริษัทและบริษัทย่อยมีการกำหนดนโยบายด้านพนักงานและจัดทำคู่มือสำหรับให้พนักงานทุกคน ได้รับทราบถึงนโยบายและสวัสดิการที่พนักงานพึงได้รับอย่างชัดเจน มีการปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ไม่มีข้อยกเว้นในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ศาสนา เพศ สถานภาพการสมรส ภาษาหรือตำแหน่ง ไม่มีการใช้หรือสนับสนุนการใช้แรงงานเด็ก การค้ามนุษย์ และไม่สนับสนุนการทุจริตและคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ ตลอดจนบริษัทยังเปิดโอกาสรับคนพิการเข้าร่วมงานกับบริษัทด้วย บริษัทมีนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับค่าตอบแทนและสวัสดิการแก่พนักงาน โดยการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่พนักงานอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันกับอุตสาหกรรมเดียวกัน

ทั้งนี้ บริษัทจัดให้มีสวัสดิการต่างๆ ที่มากกว่ากฎหมายกำหนด เช่น การจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในอัตราที่เหมาะสมตามอายุงาน การตรวจสุขภาพประจำปี ค่ารักษาพยาบาล ค่าทันตกรรม ค่าตัดแว่นสายตา ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตและอุบัติเหตุ รวมถึงการจัดพาหนะประจำตำแหน่งให้กับผู้บริหารระดับ ผู้จัดการส่วนขึ้นไปให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างคล่องตัว ส่งเสริมให้พนักงานมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดตั้งชมรม TTW Running Club และเข้าร่วมกิจกรรมงานวิ่งต่างๆ ที่หน่วยงานภายนอกจัดขึ้น รวมถึงจัดให้มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและน่าอยู่ มีห้องปฐมพยาบาลเบื้องต้น ห้องออกกำลังกายและอุปกรณ์ออกกำลังกายให้กับพนักงานเพื่อเป็นการส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี เป็นต้น

บริษัทปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีต่อลูกค้าในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำประปา โดยยึดมั่นในหลักปฏิบัติต่อลูกค้าทุกราย ด้วยการส่งมอบสินค้าและบริการที่มีความสะอาด เพียงพอ ต่อเนื่อง บนพื้นฐานของความเป็นธรรม ตรวจสอบได้ ปราศจากการทุจริต ติดสินบน และการคอร์รัปชั่น และสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างกัน บริษัทได้กำหนดไว้เป็นนโยบายและแนวปฏิบัติกับลูกค้า เกี่ยวกับการปฏิบัติและรับผิดชอบต่อลูกค้าอย่างเป็นรูปธรรม

  1. ให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เพียงพอและทันต่อเหตุการณ์แก่ลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าและบริการโดยไม่มีการกล่าวเกินความเป็นจริงที่เป็นเหตุให้ลูกค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณภาพปริมาณหรือเงื่อนไขของสินค้าหรือบริการนั้น
  2. ปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ที่มีต่อลูกค้าอย่างเคร่งครัด กรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไข ข้อใดได้ ต้องรีบแจ้งให้ลูกค้าทราบ เพื่อร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหา
  3. ติดต่อกับลูกค้าด้วยความสุภาพ มีประสิทธิภาพ และเป็นที่วางใจได้ของลูกค้า
  4. จัดให้มีระบบและกระบวนการที่ให้ลูกค้าร้องเรียนเกี่ยวกับคุณภาพ ปริมาณ ความปลอดภัยของสินค้าและบริการ รวมทั้งความรวดเร็วในการตอบสนองหรือส่งมอบ และการดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็ว
  5. รักษาความลับและข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และไม่นำข้อมูลของลูกค้าไปใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้ที่เกี่ยวข้องโดยมิชอบ
  6. ไม่เรียก หรือไม่รับ หรือจ่ายผลประโยชน์ใดๆ อันส่อถึงการกระทำที่เป็นการไม่สุจริตกับลูกค้า

บริษัทปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีต่อเจ้าหนี้ทุกราย โดยปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาเงินกู้อย่างเคร่งครัด และไม่ปกปิดสถานะทางการเงินที่แท้จริง มีการให้ข้อมูลสาระทางการเงินกับเจ้าหนี้เป็นระยะ บริษัทยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีหลักการและวินัย มีสัดส่วนการบริหารเงินทุนตามสัดส่วนของหนี้ บริษัทได้กำหนดเป็นนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเจ้าหนี้ เพื่อสร้างความเชื่อถือให้กับเจ้าหนี้ โดยบริษัทได้ยึดหลักแนวปฏิบัติดังต่อไปนี้

  1. ในการชำระคืนหนี้ เงินกู้ยืม ดอกเบี้ย และความรับผิดชอบในหลักประกันต่างๆ บริษัทยึดมั่นในสัญญา หรือ เงื่อนไขต่างๆ ที่ตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัด
  2. หากเกิดกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขแห่งสัญญาที่ตกลงกันไว้ได้ บริษัทจะแจ้งให้เจ้าหนี้ทราบล่วงหน้าเพื่อร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหา

ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญของบริษัท คือ พันธมิตรผู้ให้บริการจากภายนอก บริษัทมีหลักการคัดเลือกคู่ค้าโดยเน้นการพิจารณาจากการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจของผู้ให้บริการที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัท เช่น ความสามารถในการแข่งขัน ความต่อเนื่องทางธุรกิจ การป้องกันและดูแลลูกค้า วิธีการบริหาร ความเสี่ยง และได้กำหนดเป็นนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับคู่ค้า ซึ่งบริษัทมีการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ต่อบริษัทผู้ให้บริการจากภายนอก ภายใต้การกำกับควบคุมและกฎระเบียบของบริษัท ทั้งนี้มีหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ให้บริการจากภายนอก ดังนี้

  1. ปฏิบัติตามนโยบายคุณภาพ สิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภัยของบริษัท
  2. ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยในการทำงานของผู้รับจ้างอย่างเคร่งครัด
  3. ไม่ใช้แรงงานเด็กที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีในการทำงาน
  4. กรณีคู่ค้าใช้แรงงานต่างด้าวในการทำงานต้องมีเอกสารหรือใบอนุญาตให้ทำงานจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมาแสดงกับบริษัท และได้รับอนุญาตหรือได้รับความเห็นชอบจากบริษัทและ/หรือผู้ที่บริษัทมอบหมายก่อนเท่านั้น
  5. ปฏิบัติต่อแรงงานของตนด้วยความยุติธรรมอย่างเสมอภาค และต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือหลักมนุษยธรรมที่ดี
  6. ปฏิบัติหรือดูแลแรงงานของตนตามสมควรแก่ฐานะ และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานที่บังคับใช้ในขณะนั้นๆ

บริษัทปฏิบัติต่อคู่แข่งขันทางการค้าภายใต้กรอบการแข่งขันที่ดี และไม่เอาเปรียบคู่แข่งด้วยวิธีที่ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งการดำเนินงานอันเป็นประโยชน์ในด้านกฎเกณฑ์ และมาตรฐานในการปฏิบัติงานร่วมกัน โดยไม่แสวงหาข้อมูลของคู่ค้าและคู่แข่งอย่างไม่สุจริต รวมทั้งไม่ทำลายชื่อเสียงของคู่แข่งด้วยการกล่าวในทางร้าย โดยบริษัทมีนโยบายเกี่ยวกับการปฏิบัติที่เป็นธรรมและรับผิดชอบต่อคู่แข่งขันอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำประปารายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยผลิตและจ่ายน้ำประปาให้กับการประปาส่วนภูมิภาคที่เป็นคู่ค้า โดยไม่มีคู่แข่งทางการค้าในทางตรง อย่างไรก็ตามบริษัทได้กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติต่อคู่แข่ง ดังนี้

  1. ปฏิบัติต่อคู่แข่งทางการค้า ภายใต้กรอบกติกามารยาทของการแข่งขันที่ดี และเป็นธรรม
  2. ห้ามมีส่วนในการทำความตกลงร่วมกันกำหนดราคาระหว่างบริษัทและคู่แข่ง
  3. ไม่ทำลายชื่อเสียงของคู่แข่งขันทางการค้าด้วยการกล่าวหาในทางร้ายและปราศจากข้อมูลความจริง
  4. ไม่แสวงหาข้อมูลที่เป็นความลับของคู่แข่งทางการค้าด้วยวิธีการที่ไม่สุจริตหรือด้วยวิธีการอื่น ที่ไม่เหมาะสม
  5. ไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่น หรือคู่แข่งทางการค้า
  6. ระมัดระวังการร่วมงานวิจัย การแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือร่วมกิจกรรมใดๆ กับคู่แข่ง หากประสงค์จะใช้ข้อมูลใดๆ ให้เลือกใช้จากแหล่งข้อมูลสาธารณะเป็นหลักก่อน
  7. ห้ามทำข้อตกลงใดอันเป็นการจำกัดโอกาสทางธุรกิจโดยไม่เป็นธรรมกับคู่ค้า ตัวแทนจำหน่ายหรือบุคคลอื่นๆ
  8. ในกรณีที่บริษัทจะเข้าไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศโดยการร่วมลงทุน ควบรวมกิจการ หรือเข้าซื้อกิจการของผู้ประกอบการรายอื่น หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องตรวจสอบข้อกฎหมายและข้อกำหนดต่างๆ เกี่ยวกับการป้องกันการไม่เลือกปฏิบัติหรือการแข่งขันทางการค้าของประเทศนั้นๆ
  9. ไม่เลือกปฏิบัติในการดำเนินการใดๆ ของบริษัทต่อผู้มี ส่วนได้เสียให้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการนั้นๆ

บริษัทประกอบธุรกิจโดยคำนึงถึงชุมชนและสังคม โดยเฉพาะชุมชนในพื้นที่ตั้งกิจการ ทั้งนี้ ได้กำหนดไว้เป็นพันธกิจขององค์กรที่จะต้องเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมและใส่ใจต่อชุมชน จึงถือเป็นหนึ่งในหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้บริหารและพนักงานทุกคนที่จะต้องยึดถือปฏิบัติ นับตั้งแต่การให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงและเป็นปัจจุบัน การอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลด้วยความเคารพในขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของชุมชน ตลอดจนการมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในชุมชน รวมทั้งการร่วมมือกับชุมชนสร้างสรรค์ท้องถิ่นและสังคมให้ร่มเย็นน่าอยู่ อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของสังคมส่วนรวม

บริษัทให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามที่กำหนดพันธกิจอย่างชัดเจนว่า “เติบโตอย่างมั่นคง ต่อเนื่อง และยั่งยืนเพื่อบรรลุซึ่งวิสัยทัศน์บนพื้นฐานของความสมดุลระหว่างลูกค้า พนักงาน คู่ค้า ผู้ถือหุ้น ชุมชนและสิ่งแวดล้อม” บริษัทจึงมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญเทียบเท่ากับปัจจัยทางด้านการดำเนินธุรกิจของบริษัท

บริษัทเข้าใจดีว่าแค่การปฏิบัติตามกฎข้อบังคับต่างๆ นั้น ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยปกป้องและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ยังมีปัจจัยด้านอื่นๆ ที่จะต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจนอกเหนือจากกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ นั่นคือ การพัฒนาแผนงานภายในองค์กรเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน การควบคุมคุณภาพ การส่งเสริมการคิดค้นนวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่เกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การดำเนินธุรกิจภายใต้มาตรฐานสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย การจัดการของเสียและเสียงรบกวนให้สอดคล้องตามระบบมาตรฐานสากล ISO 14001

นอกจากนี้ บริษัทได้ถ่ายทอดความรู้และฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พนักงานเกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง โดยผลการดำเนินงานและตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยต่างๆ จะถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบ และได้รับการตรวจติดตามผลจากหน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดจนการมี ส่วนร่วมพัฒนาสังคมและชุมชนในพื้นที่ที่บริษัทดำเนินกิจการอยู่ โดยมีการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลเป็นพื้นฐานเพื่อให้ระบบบริหารจัดการมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนแล้ว การดำเนินการดังกล่าวจะนำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาวให้กับองค์กรอีกด้วย

บริษัทสนับสนุนให้มีการดำเนินงานและปฏิบัติตามหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชนและมาตรฐานสากลด้านสิทธิมนุษยชนอื่นๆ โดยคณะกรรมการบริษัทได้กำหนดนโยบายให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคนไม่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนี้

  1. ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพด้วยการไม่เลือกปฏิบัติ ด้วยเรื่องมุมมอง เชื้อชาติ สีผิว ศาสนา เพศ สัญชาติ อายุ การศึกษา ความทุพพลภาพ หรือสถานภาพอื่นใดที่ถือว่าเป็นสิทธิมนุษยชน
  2. ปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันในทุกกระบวนการจ้างงานตั้งแต่ การสรรหา การจ่ายค่าตอบแทน เวลาทำงานและวันหยุด การประเมินผลการปฏิบัติงาน การฝึกอบรมและการพัฒนา การวางแผนความก้าวหน้าและอื่นๆ โดยไม่เลือกปฏิบัติ
  3. ไม่ใช้แรงงานบังคับ แรงงานเด็กและแรงงานต่างด้าว อันมิชอบด้วยกฎหมาย รวมถึง การลงโทษที่เป็นการทารุณร่างกายและจิตใจพนักงาน ไม่ว่าโดยการขู่เข็น กักขัง หน่วงเหนี่ยว การคุกคามข่มขู่ การล่วงละเมิดหรือการใช้ความรุนแรงในรูปแบบใด
  4. ปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนด้วยความเสมอภาค ให้โอกาสที่เท่าเทียมกันในการทำงานภายใต้กฎระเบียบ ข้อบังคับในการทำงาน ประกาศและคำสั่งต่างๆ ของบริษัทที่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงให้พนักงานสามารถแสดงข้อคิดเห็น ข้อร้องเรียน สิทธิที่จะเข้าถึงกระบวนการในการรับฟังการชี้แจงก่อนการตัดสินลงโทษทางวินัยภายในองค์กร
  5. สนับสนุนให้พนักงานใช้สิทธิของตนในฐานะพลเมืองโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งจะไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเมื่อเกิดเหตุการณ์ขัดแย้งหรือขาดเสถียรภาพทางการเมือง และประชาธิปไตยอย่างรุนแรง
  6. บริษัทและพนักงานทุกคนไม่สนับสนุนการคอร์รัปชั่น และไม่เกี่ยวข้องกับกิจการใดๆ ของคู่ค้า ลูกค้า หรือ ผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ ที่กระทำการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากลและการคอร์รัปชั่น

บริษัทกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่กระทำความผิดในเรื่องดังกล่าวในระดับสูงสุด ทั้งนี้ มีการอบรมให้ความรู้พนักงานใหม่เกี่ยวกับจรรยาบรรณของบริษัทและนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน และได้จัดให้มีช่องทางในการแจ้งเบาะแส ร้องเรียนผ่านคณะกรรมการตรวจสอบ โดยข้อร้องเรียนจะถูกเก็บเป็นความลับตามนโยบายและแนวทางในการปกป้องพนักงานหรือผู้แจ้งเบาะแส (Whistle Blower)

คณะกรรมการบริษัทกำหนดนโยบายการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นและการจ่ายสินบน (Zero Tolerance Policy) และเผยแพร่ไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท โดยห้ามมิให้คณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานทุกคนทุกระดับ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ และจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและกฎหมายของ ทุกๆ ประเทศที่บริษัทดำเนินธุรกิจด้วย โดยจะมีการทบทวนนโยบายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับปรุงให้ทันต่อ การเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย กฎระเบียบ มาตรฐาน และการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ทั้งนี้ ได้กำหนด แนวปฏิบัติเพื่อให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานได้นำไปปฏิบัติไว้ในจรรยาบรรณทางธุรกิจของบริษัท ห้ามมิให้พนักงานเรียกหรือรับประโยชน์หรือทรัพย์สินใดที่ส่อไปในทางจูงใจให้ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในทางที่มิชอบ หรืออาจทำให้บริษัทเสียประโยชน์อันชอบธรรม รวมทั้งให้พนักงานละเว้นการเสนอหรือให้ประโยชน์หรือทรัพย์สินใดแก่บุคคลภายนอกเพื่อจูงใจให้ผู้นั้นกระทำหรือละเว้นการกระทำใดที่ผิดกฎหมายหรือ โดยมิชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ของตน

บริษัทกำหนดนโยบายการเคารพกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งกำหนดให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานต้องดำเนินธุรกิจของบริษัทให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน ไม่มีส่วนรู้เห็น ช่วยเหลือ หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการละเมิด ฝ่าฝืนกฎหมาย หรือระเบียบข้อบังคับ

คณะกรรมการมีนโยบายที่จะมิให้มีการขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ของบริษัท โดยได้กำหนดเป็นหลักการไว้ในจรรยาบรรณทางธุรกิจสำหรับกรรมการและพนักงาน ดังนี้

  1. ดูแลให้บริษัทมีการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และการเปิดเผยข้อมูลรายการที่เกี่ยวโยงกัน ตามที่กฎหมายหรือหน่วยงานกำกับดูแลกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด และเป็นไปตามระเบียบของบริษัท
  2. หลีกเลี่ยงการทำรายการที่เกี่ยวโยงกับตนเองหรือบุคคล/นิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับบริษัท
  3. ในกรณีรายการที่เป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการค้าทั่วไปตามหลักการที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติ หรือมีลักษณะและขนาดของรายการไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของฝ่ายจัดการ ต้องผ่านการสอบทานและให้ความเห็นจากคณะกรรมการตรวจสอบก่อนนำเสนอขออนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทหรือผู้ถือหุ้น
  4. ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน รายการนั้นจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการค้าทั่วไปตามหลักการที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติ ด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม เปรียบเสมือนการทำรายการกับบุคคลภายนอก และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของบริษัท
  5. ผู้ที่มีส่วนได้เสียจะต้องไม่มีส่วนในการพิจารณารายการที่ตนมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์

บริษัทได้กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือลิขสิทธิ์ โดยบริษัทมีคณะเจ้าหน้าที่บริหารความเสี่ยงที่มีกรรมการผู้จัดการเป็นประธาน รายงานการดำเนินงานให้กับคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงและบรรษัทภิบาลได้พิจารณา ทั้งในการดำเนินการที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว อาทิ พนักงานทุกคนจะต้องลงนามในบันทึกข้อตกลงการไม่กระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และการไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา บริษัทมีการกำหนดนโยบายการใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกลุ่มบริษัท และได้มีการตรวจสอบการใช้ระบบโปรแกรมซอฟต์แวร์การทำงานของพนักงาน เพื่อป้องกันการใช้ซอฟต์แวร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน โดยบริษัทได้กำหนดนโยบายการจัดการด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยถือปฏิบัติ

  1. ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศไทย และทุกประเทศที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ โดยถือเป็นบรรทัดฐานขั้นต้น
  2. เปิดเผยซึ่งผลงาน การประดิษฐ์ และองค์ความรู้ใดๆ อันเกิดจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือการสนับสนุนส่งเสริมโดยบริษัทให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยถูกต้องครบถ้วนและทันที
  3. รักษา ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัททั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมถึงเคารพและไม่ละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลอื่น
  4. เก็บรักษาซึ่งเอกสารสำคัญ ความลับทางการค้า และข้อมูลอื่นใดอันเป็นความลับของบริษัท คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัย มีวิธีในการเข้าถึงที่เหมาะสมและเป็นมาตรฐานไม่เปิดเผยต่อบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง โดยหน้าที่นี้ ยังคงมีผลต่อเนื่องไปแม้จะพ้นสภาพการเป็นผู้บริหารหรือพนักงานของบริษัทแล้วก็ตาม
  5. ไม่นำทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลอันเป็นความลับของบริษัท คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือนำไปใช้ด้วยวิธีการใดๆ เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
  6. รายงานต่อผู้บังคับบัญชาเมื่อพบเห็นการกระทำที่เป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรืออาจนำไปสู่การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือการกระทำที่อาจก่อให้เกิดข้อพิพาทใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทหรือของบุคคลอื่น
  7. สนับสนุนความร่วมมือในด้านทรัพย์สินทางปัญญากับหน่วยงานภายนอกทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

บริษัทได้จัดให้มีมาตรการการร้องเรียนและการแจ้งเบาะแสโดยเผยแพร่มาตรการดังกล่าวในคู่มือหลักการกำกับดูแลกิจการและทางเว็บไซต์ของบริษัท และได้ทบทวนมาตรการนี้เพื่อให้การรับเรื่องร้องเรียน มีประสิทธิภาพและครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งยังช่วยในการติดตามดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติงานของกรรมการผู้บริหารและพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ หลักการกำกับดูแลกิจการ จรรยาบรรณธุรกิจ และไม่กระทำการใดๆ ที่อาจส่อถึงการทุจริต

การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลทางการเงิน และสารสนเทศที่สำคัญให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา โปร่งใส ผ่านช่องทางที่เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย มีความเท่าเทียม และเป็นไปตามกฎเกณฑ์ ระเบียบของหน่วยงานกำกับ หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของ ก.ล.ต. และเกณฑ์ในการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและตอบรับกับบทบาทของเทคโนโลยีและสื่อออนไลน์ โดยมีการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทครอบคลุมข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษรทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และข้อมูลที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรที่ครอบคลุมทุกวิธีการสื่อสาร เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึง โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ดังนี้

1. ช่องทางการเปิดเผยข้อมูล

  • สื่อออนไลน์ Social Media และ เว็บไซต์ของบริษัท www.ttwplc.com
  • แบบ 56-1 One Report
  • หน่วยงานกำกับดูแล เว็บไซต์ของ ตลท. และ ก.ล.ต.
  • บทรายงานการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ (MD & A)
  • สื่อมวลชน ข่าวประชาสัมพันธ์ หนังสือพิมพ์ สื่อโฆษณา วารสาร และโทรทัศน์
  • ผู้ถือหุ้น นักลงทุนรายบุคคล นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ นักลงทุนสถาบัน ได้แก่
    • - การจัดแถลงผลการดำเนินงานต่อนักลงทุนและนักวิเคราะห์ (Analyst Meeting)
    • - การให้ข้อมูลแก่นักลงทุน นักวิเคราะห์ทางโทรศัพท์
    • - การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (VDO Conference)
    • - การเผยแพร่ข้อมูลบริษัทผ่าน Listed Company Snapshot ของ ตลท.
    • - การเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเยี่ยมชมกิจการของบริษัท
    • - การจัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นทางไปรษณีย์

2. หน่วยงานและบุคคลที่มีหน้าที่เปิดเผยข้อมูล

  • หน่วยงานที่มีหน้าที่เปิดเผยข้อมูล
    • - ส่วนเลขานุการบริษัท เปิดเผยข้อมูลต่อ ก.ล.ต. , ตลท. และผู้ถือหุ้นรายใหญ่
    • - ส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ เปิดเผยข้อมูลต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และนักลงทุนสถาบัน
  • บุคคลที่มีหน้าที่เปิดเผยข้อมูล
    • - กรรมการผู้จัดการ
    • - ผู้บริหารระดับสูงที่กรรมการผู้จัดการมอบหมาย

3. การเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ส่วนเลขานุการบริษัท ทำหน้าที่เปิดเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศตามข้อกำหนดของ ตลท. และ ก.ล.ต. อย่างถูกต้อง ครบถ้วน โปร่งใส โดยผ่านการพิจารณาตรวจสอบตามขั้นตอน

ทั้งนี้ ข้อมูลที่บริษัทเผยแพร่เป็นข้อมูลที่มีสาระสำคัญครบถ้วนและถูกต้อง และเพื่อให้การเปิดเผยข้อมูล มีประสิทธิภาพ บริษัทจึงได้ทำการปรับปรุงข้อมูลในเว็บไซต์ให้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันเสมอ เพื่อให้ ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนสามารถสืบค้นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ ทำหน้าที่ติดต่อสื่อสารกับนักลงทุนสถาบัน ผู้ถือหุ้น รวมถึงนักวิเคราะห์ ตามหลักการพื้นฐานในเรื่องความถูกต้อง เพียงพอ ทันเวลา เท่าเทียม เป็นธรรม ซื่อสัตย์สุจริต และสอดคล้องกับนโยบายและหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ตลอดจนมีการจัดทำแผนงานนักลงทุนสัมพันธ์ประจำปีอย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากทีทีดับบลิวให้ความสำคัญและระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูล รวมทั้งการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างเท่าเทียมกัน โดยกำหนดช่วงเวลาไม่เผยแพร่ข่าวสารหรือข้อมูลต่อนักวิเคราะห์ นักลงทุนสถาบัน ผู้ถือหุ้น และสาธารณชน ด้วยการงดรับนัดหรือตอบคำถามเกี่ยวกับผลประกอบการในอนาคตอันใกล้ให้แก่นักวิเคราะห์ และนักลงทุน (Silent Period) ในช่วง 14 วัน ก่อนที่จะมีการเปิดเผยงบการเงิน และในกรณีที่มีการจัดประชุมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (Analyst Meeting) จะดำเนินการหลังจากที่มีการเปิดเผยงบการเงินแล้ว

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับ CG Code ของ ก.ล.ต. ในหลักปฏิบัติที่ 7 เรื่องการรักษาความน่าเชื่อถือทางการเงินและเป็นการเปิดเผยข้อมูล คณะกรรมการบริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในหลักปฏิบัติดังกล่าว จึงมอบหมายให้ส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ จัดทำจรรยาบรรณนักลงทุนสัมพันธ์ของทีทีดับบลิว เพื่อใช้เป็นกรอบและแนวปฏิบัติสำหรับผู้ปฏิบัติงานนักลงทุนสัมพันธ์ของบริษัท โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

  1. เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญและจำเป็นต่อการตัดสินใจลงทุนอย่างถูกต้อง เพียงพอ และทันเวลา
  2. การดูแลรักษาข้อมูลภายใน
  3. เปิดเผยข้อมูลอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม โดยเปิดโอกาสให้บุคคลที่เกี่ยวข้องทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงและสอบถามข้อมูลได้
  4. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตในวิชาชีพ บนพื้นฐานของหลักการของความเท่าเทียมกัน ไม่มีการเลือกปฏิบัติบนอามิสสินจ้างใดๆ ที่เป็นเหตุจูงใจส่วนบุคคลและเอื้อประโยชน์ส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์ของบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

การจัดทำและนำส่งงบการเงิน

เพื่อแสดงความรับผิดชอบในการจัดทำรายงานทางการเงินว่ามีความถูกต้อง ครบถ้วน โปร่งใส อย่างเพียงพอที่จะดำรงรักษาไว้ซึ่งทรัพย์สินของบริษัท ป้องกันการทุจริตและการดำเนินการที่ผิดปกติ รวมทั้ง ได้ถือปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป และใช้นโยบายบัญชีที่เหมาะสมและถือปฏิบัติ โดยสม่ำเสมอ ตลอดจนมีการพิจารณาถึงความสมเหตุสมผลและความรอบคอบในการจัดทำงบการเงินของบริษัท และเพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกิดความเชื่อมั่นต่อรายงานทางการเงินที่บริษัทจัดทำขึ้นว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ข้างต้น คณะกรรมการบริษัทจึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อทำหน้าที่สอบทานให้บริษัทมีรายงานทางการเงินและการดำเนินงานอย่างถูกต้องเพียงพอ รวมทั้งคณะกรรมการบริษัทยังได้จัดทำรายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการในการจัดทำรายงานทางการเงินซึ่งครอบคลุมเรื่องสำคัญตามข้อพึงปฏิบัติสำหรับกรรมการบริษัทจดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เสนอแนะไว้ ลงนามโดยประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ โดยแสดงควบคู่กับรายงานของผู้สอบบัญชีในรายงานประจำปี

บริษัทได้ให้ผู้สอบบัญชีจากบริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทซึ่งมีความรู้ ความชำนาญในวิชาชีพ มีความเป็นอิสระ และได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยงบการเงิน ของบริษัทได้รับการรับรองโดยไม่มีเงื่อนไข และถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญ ตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบ/คณะกรรมการบริษัทก่อนเปิดเผยต่อผู้ถือหุ้น

บริษัทมีการจัดทำบทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร (MD&A) เพื่ออธิบายในเชิงวิเคราะห์เกี่ยวกับฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน ปัจจัยที่มีผลต่อฐานะการเงิน และผลการดำเนินงาน รวมทั้ง การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางการเงินให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทราบเป็นรายไตรมาสทุกไตรมาส โดยเปิดเผยผ่านระบบ SET Link ของ ตลท. พร้อมการนำส่งงบการเงิน และจัดให้มีการเปิดเผยบนเว็บไซต์ของบริษัท เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่สนใจอีกช่องทางหนึ่ง โดยที่ผ่านมาบริษัทเปิดเผยงบการเงินทั้งรายไตรมาสและรายปีล่วงหน้าก่อนครบกำหนด อีกทั้งไม่เคยมีประวัติถูกสั่งให้แก้ไขงบการเงินแต่อย่างใด

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีการสอบทานระบบควบคุมภายในให้มีประสิทธิภาพผ่านคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจได้อย่างมีเหตุผลว่าการบันทึกข้อมูลทางบัญชี มีความถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอที่จะดำรงรักษาไว้ซึ่งทรัพย์สินและเพื่อให้ทราบจุดอ่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตหรือการดำเนินการที่ผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญ